"หัวเว่ย" ย้ำบริษัทไม่ได้ทำสิ่งเลวร้าย หลังถูกสหรัฐฯ แบนเทคโนโลยี 5G ลั่น มีความรับผิดชอบอย่างจริงจังในการไม่ละเมิดข้อมูลของผู้ใช้บริการ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกัว ผิง ประธานบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน ย้ำว่า หัวเว่ยไม่ได้กระทำสิ่งที่เลวร้าย โดยนายกัวได้กล่าวในระหว่างการอภิปรายในงาน MWC 2019 หรือในชื่อเดิมคือ Mobile World Congress ในเมืองบาร์เซโลนาของสเปน เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น

โดยถ้อยแถลงของประธานหัวเว่ย ในระหว่างการอภิปรายประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์นั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ พยายามกดดันให้รัฐบาลชาติตะวันตกยกเลิกการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยในการสร้างเครือข่าย 5G

ในระหว่างการอภิปรายในงาน MWC 2019 ประธานหัวเว่ยได้พยายามลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคง โดยกล่าวว่า

"เพื่อสร้างระบบที่เราทุกคนสามารถไว้วางใจได้ เราจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบที่เห็นพ้องต้องกัน สร้างมาตรฐานที่เป็นเอกภาพและกฎระเบียบที่ชัดเจน เราสามารถพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า 5G นั้นปลอดภัยกว่า 4G และในฐานะผู้จัดจำหน่ายนั้น เราไม่ได้ดำเนินการเครือข่ายของผู้ให้บริการ และเราไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลของผู้ให้บริการด้วย" กัว ผิง กล่าว

ประธานบริษัทหัวเว่ยยังได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่า หัวเว่ยละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจารกรรมข้อมูล

"สิ่งที่เราให้คำมั่นได้ก็คือ เราจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี เราจะไม่ทำสิ่งที่เลวร้าย" ประธานบริษัทหัวเว่ย กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐพยายามแบนหัวเว่ยจากการเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเครือข่าย 5G แต่นายกัว ผิง ได้เน้นย้ำความเชื่อมั่นสำหรับประเทศอื่นๆ ที่กำลังพิจารณาจะตัดสินใจเช่นเดียวกับสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า

"หัวเว่ยไม่เคยและจะไม่เปิดทางให้เกิดการสร้างช่องโหว่ของระบบซอฟต์แวร์เป็นอันขาด เราจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามทำเช่นนั้นในอุปกรณ์ของเรา เรามีความรับผิดชอบอย่างจริงจังในเรื่องนี้"

นอกจากนี้ ประธานหัวเว่ยยังกล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ที่มีต่อ 5G ของหัวเว่ยนั้นไม่มีหลักฐานสนับสนุน ดังนั้นสำหรับเทคโนโลยีที่สุดยอดที่สุดและความมั่นคงปลอดภัยที่ดีขึ้น กรุณาเลือกใช้อุกรณ์ของหัวเว่ย

ภาพ :huawei.com