วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2567

3 สัญญาณเตือน ว่าสตาร์ทอัพของคุณไปไม่รอด

by Phongsak, 14 มีนาคม 2562

ข้อมูลที่มักจะถูกยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยๆ เรื่องของสตาร์ทอัพก็คือ 75% มักจะล้มเหลวไม่เป็นท่า หรือไม่ก็จะต้องบอกว่าจะหายไป 50% ในเวลา 5 ปี แต่ข้อมูลนี่ไม่ใช่ข้ออ้างในการที่คุณจะเริ่มต้นทำธุรกิจที่เรียกว่าสตาร์ทอัพ แทนที่จะคอยอ้างข้อมูลเพื่อความล้มเหลว มาคอยดูสัญญาณ 3 ข้อนี้ดีกว่า ถ้าเจอให้รีบแก้ไขก่อนที่จะพบจุดจบ

ถ้ารักที่จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพ คุณจะอ้างว่าคุณไม่เก่งด้านธุรกิจก็คงจะทำไม่ได้ เพราะนี่คือธุรกิจ ดังนั้นเรื่องของรายได้ที่เข้ามาต้องเอาใจใส่ ความแตกต่างในตลาดก็ต้องมี และแน่นอนการทำความต้องการของตลาดเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ใครจะเอาแต่เข้าข้างตัวเองว่าคิดมาดีแล้ว ต้องมุ่งมั่นไปให้สุดโดยที่ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย ก็รอวันเผาอย่างเดียว

3 สัญญาณเตือน ว่าธุรกิจสตาร์ทอัพของคุณกำลังมีปัญหา

1.ธุรกิจของคุณ ROI ไม่ดี

สัญญาณเตือนข้อแรกนี้ชัดเจนมาก ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเงินอะไรมากมายก็พอที่จะทำการวัดระดับความรุนแรงของเรื่องนี้ได้ เพราะธุรกิจคือการนำเงินไปลงทุน เพื่อให้ได้เงินกลับมา แล้วถ้าเงินที่ได้กลับมามันน้อยกว่าที่ลงทุนไป ก็ชัดเจนว่า ROI ของธุรกิจคุณไม่เข้าท่าแล้ว ถ้าไม่แก้ไขเรื่องนี้ด้วยการทำให้มีกำไรเข้ามา ก็เหมือนกับผลาญเงินทุนที่ได้มาจนหมด แล้วก็รอวันโบกมือลาเท่านั้นเอง

เรื่องนี้ต้องหาทางแก้ไขโดยเร็ว บางครั้งค่าค่าใช้จ่ายสูงเกินไปจะสร้าง ROI ที่ติดลบ บางครั้งการเงินที่มีการจัดการไม่ดี อย่างคุณจ้างคนจำนวนมากเกินไป หรือลงทุนซื้อเครื่องไม้เครืองมือมากเกินกว่าที่ธุรกิจของคุณจำเป็นต้องใช้ ต้องหาให้เจอแล้วรีบทำการแก้ไข เพราะว่าธุรกิจจำเป็นต้องได้รับ ROI ที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น หลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลาที่จะทำให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จ ความจริงเรื่องนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ก็คือถ้าธุรกิจไม่ทำเงินแสดงว่าคุณมีปัญหา

2.ธุรกิจของคุณธรรมดาเกินไป

หลายครั้งสตาร์ทอัพบางรายเน้นไปที่ตลาดของคนทั่วไปมากจนเกินไป ทั้งๆ ที่ตอนแรกอาจจะเป็นการออกแบบกลุ่มลูกค้าที่ถูกต้องแล้ว แต่การลดความเสี่ยงด้วยการจับตลาดคนหมู่มาก กลับเป็นอันตรายต่อธุรกิจของคุณมากกว่า

และในความเป็นจริงยิ่งคุณจำกัดตลาดของคุณให้ชัดมากเท่าไร การโฆษณาทำการตลาดและขายผลิตภัณฑ์ของคุณก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น เพียงเพราะธุรกิจของคุณสามารถให้บริการได้หลายกลุ่มในตลาดไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องดี การเริ่มธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นง่ายกว่าการแข่งขันกับตลาดใหญ่ที่มีเจ้าถิ่นอยู่แล้ว

3.ธุรกิจของคุณไม่ได้ตอบสนองความต้องการของตลาด

หนึ่งในบทเรียนที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับการเป็นสตาร์ทอัพก็คือ “เรียนรู้เร็วกว่าผู้อื่น” เพราะเมื่อใดที่คุณหยุดเรียนรู้ นั่นหมายถึงธุรกิจของคุณเข้าใกล้ความล้มเหลวเข้าไปทุกที ตัวอย่างของ Blockbuster บริษัท ขนาดใหญ่ที่ล้มเหลวในชั่วข้ามคืน ด้วยการถูก Netflix และ Redbox เข้าโจมตีที่ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
อะไรที่เลวร้ายกว่าการที่ธุรกิจไม่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจะต้องสร้างธุรกิจที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แล้วคุณจะสามารถอยู่รอดได้

อย่าลืมตรวจเช็คสุขภาพของธุรกิจของคุณใน 3 ข้อนี้ หากพบว่าข้อไหนไม่เข้าท่าก็ให้รีบจัดการแก้ไข ถ้าธุรกิจของคุณ ROI ดี สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด แถมยังเป็นสินค้าที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของตลาดได้ รับรองว่าธุรกิจของคุณได้ไปต่อแน่นอน

อ้างอิง:


Mostview

คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท

ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น

กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา

หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง

ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

6 วิธีสร้างแนวคิดอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจของคุณ แถมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

การยึดมั่นในเรื่องของความยั่งยืนไม่ได้เป็นประโยชน์กับสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกให้กับแบรนด์อีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกลยุทธ์ทางธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่คนเป็นผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ ผ่านวิธีการเหล่านี้

SmartSME Line