อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมียอดขายทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 วิวัฒนาการของอีคอมเมิร์ซสามารถให้เครดิตบางส่วนกับการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการเงินหรือที่เรียกว่า FinTech อย่างเช่นเรื่องของ e-wallets ตัวเลือกการชำระเงินแบบใหม่ การซื้อแอปฯ การให้ยืมและการชำระเงินแบบ peer-to-peer ล้วนแล้วแต่เป็นการส่งเสริมอีคอมเมิร์ซทั้งสิ้น

เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยกับวิธีการซื้อสินค้าและระบบการชำระเงินออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ นวัตกรรมของ FinTech และการชำระเงินทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์เหล่านี้ง่ายขึ้น ระบบการชำระเงินกำลังเติบโตอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและธุรกิจ ตราบใดที่ฟินเทคยังคงสร้างนวัตกรรมการชำระเงินใหม่ๆ ออกมา การตลาดอีคอมเมิร์ซก็จะยังคงพัฒนาต่อไป

3 แนวโน้มของ Fintech ที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซต่อไป

1. การเพิ่มความเป็นไปได้ระดับโลก

หนึ่งในประโยชน์หลักของนวัตกรรมการชำระเงินใหม่คือการชำระเงินสามารถทำข้ามพรมแดนได้อย่างราบรื่น PayPal เป็นบริษัทใหญ่รายแรกที่ทำให้อีคอมเมิร์ซสามารถตอบสนองฐานลูกค้าใหม่โดยให้ความเป็นไปได้สำหรับการทำธุรกรรมทั่วโลกนำไปสู่ผู้ให้บริการชำระเงินอื่นๆ เช่น Transferwise, Transfergo และแม้แต่ Western Union ยังต้องเข้าสู่เงินดิจิทัล ด้วยความก้าวหน้าของระบบชำระเงินข้ามโลก ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตลาดท้องถิ่นเพื่อเพิ่มยอดขายอีกต่อไป

ยังมีประโยชน์อีกประการหนึ่งสำหรับแนวโน้มการชำระเงินของโลก Fintech ให้ประโยชน์แก่ตลาดเกิดใหม่ด้วยการเสนอพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อเก็บเงินสำหรับประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ง่าย M-Pesa ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเคนยามีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่และกำลังขยายตัว ช่วยให้บุคคลฝากเงินและซื้อสินค้าทุกวันได้อย่างง่ายดาย

2. การเติบโตของ M-Commerce

ในขณะที่การชำระเงินผ่านแอปมือถือไม่มีอะไรใหม่ แต่การยอมรับอย่างกว้างขวางก็คือ การซื้อขายของวีซ่าผ่านอุปกรณ์พกพานั้นโตเร็วกว่าการขายบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปถึง 53%

นี่เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถใช้งานมือถือได้ ด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น Apple Pay และ Samsung Pay ผู้ใช้สามารถทำการซื้อได้ง่ายปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อการชำระเงินผ่านมือถือง่ายขึ้นโอกาสในการซื้อของลูกค้าจะเพิ่มขึ้น และร้านค้าอีคอมเมิร์ซจะทำยอดขายได้อย่างมากมาย

3. การประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึง

กฎของมัวร์ซึ่งเป็นหลักการที่ความเร็วและความสามารถของคอมพิวเตอร์จะเพิ่มเป็นสองเท่าในทุกๆ 2 ปีไม่เคยตาย และฟินเทคเป็นตัวอย่างโดยตรง ต้องขอบคุณความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีชิป ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นมีขนาดเล็กลงบนราคาที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ธุรกิจเกิดใหม่สามารถซื้อแพคเกจซอฟต์แวร์ทางการเงินที่มีต้นทุนน้อย

หากการชำระเงินทำได้ง่าย ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะทำการชำระเงินมากกว่า ต้องยอมรับว่า FinTech ทำให้ช่องว่างในเรื่องนี้หายไป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีตัวช่วยพัฒนาขีดความสามารถด้านการชำระเงิน

Fintech กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บและใช้จ่ายเงินของผู้บริโภค เป็นการสร้างอนาคตของอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ นวัตกรรมการชำระเงินทำให้ผู้บริโภคสามารถเพิ่มการใช้จ่ายได้อย่างง่ายดายรวมถึงการรักษาความปลอดภัย ทั้งหมดทำให้เกิดความสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ