โดนัลด์ ทรัมป์ ยันเองสหรัฐฯ จะไม่ทำธุรกิจร่วมกับ Huawei พร้อมระงับการขอใบอนุญาต
by Anirut.j, 13 สิงหาคม 2562
ตามรายงานของ Bloomberg ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในที่ประชุมว่า สหรัฐฯ จะหยุดทำธุรกิจกับ Huawei และพร้อมที่จะแบนการออกใบอนุญาตให้กับกับบริษัทของสหรัฐฯ ทำการค้าร่วมกับ Huawei
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ (9 สิงหาคม) ที่ผ่านมา ว่า เราจะหยุดการทำธุรกิจร่วมกับ Huawei แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เห็นด้วยกับทุกเรื่อง หากเราทำข้อตกลงทางการค้า แต่ยืนยันว่าเราจะไม่ทำการค้าร่วมกับ Huawei
ตามรายงานของ Bloomberg ระบุว่ามีบริษัทของสหรัฐฯ ราว 50 แห่ง ที่จะถูกระงับใบอนุญาตทำการค้ากับ Huawei จากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทางกระทรวงพาณิชย์ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า การตัดสินใจเรื่องระงับใบอนุญาตกำลังอยู่ในขั้นตอน “ระหว่างรอดำเนินการ”
การตัดสินใจในครั้งนี้ของโดนัลด์ ทรัมป์ มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการตอบโต้จีนในการทำสงครามการค้า หลังจากจีนออกมาเคลื่อนไหวว่าจะหยุดซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯ แม้ว่า Huawei จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสินค้าทางการเกษตรแต่ ทรัมป์ มองว่าการแบน Huawei จะส่งผลกระทบกับจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่มา:androidauthority
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Mostview
เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน
ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%
สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท
จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา
ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ