บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 5,645 ล้านบาท

บริษัทในเครือของ ซีพี ออลล์ มีรายได้รวมอยู่ที่ 145,856 ล้านบาท เติบโต 5.2% เมื่อเทียบกับไตรรมาสเดียวกันกับปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากรายได้จากการขาย และบริการของธุรกิจร้านสะดวกจากสาขาใหม่ที่เปิดในรอบปีที่ผ่านมา และรายได้จากการขาย และบริการของธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “สยามแม็คโคร”

ดังนั้น ซีพี ออลล์ จึงมีกำไรขั้นต้นจากการขาย และบริการ คิดเป็น 31,182 ล้านบาท เติบโต 4.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีต้นทุนการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหาร คิดเป็น 27,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อสรุปค่าใช้จ่าย พบว่า ในไตรมาส 1/2563 บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จำนวน 8,760 ล้านบาท ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 5,645 ล้านบาท ลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน

ด้านกลุ่มธุรกิจสะดวกซื้อ พบว่าในช่วงไตรมาส 1 /2563 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิดสาขาใหม่ 271 สาขา โดยมีรายได้จากการขายสินค้า และบริการรวม 82,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน 2,112 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.6% อย่างไรก็ตาม ยอดขายเฉลี่ยของร้านเดิมลดลง 4.0% เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งยอดขายเฉลี่ยต่อวันของร้านอยู่ที่ 78,872 บาท ยอดซื้อต่อบิลเฉลี่ย 70 บาท และลูกค้าเข้าใช้บริการต่อสาขาเฉลี่ย 1,122 คน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• CPALL ปิดดีลได้สิทธิ์เปิดสาขา 7-Eleven ในกัมพูชายาว 30 ปี