วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2567

Huawei เรียนรู้ประสบการณ์จากปีที่ผ่านมา เพื่อกำหนดแผนงานในอนาคต

by Phongsak, 20 พฤษภาคม 2563

หัวเว่ยจัดงานประชุมสุดยอด Huawei Global Analyst Summit (HAS) ครั้งที่ 17 ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีทั้งนักวิเคราะห์ ผู้มีอิทธิพลทางความคิด (KOL) และตัวแทนสื่อมวลชนจากหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นโทรคมนาคม อินเทอร์เน็ต และการเงิน รวมกว่า 2,000 คนเข้าร่วม

ภายในงานยังได้มีการพูดคุยถึงประเด็นของความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรม ในการผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งความอัจฉริยะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นายกัว ผิง ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานในหัวข้อ “หัวเว่ย: หนึ่งปีที่ผ่านมาและอนาคตเบื้องหน้า” โดยเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงประสบการณ์และผลการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยในช่วงปีที่ผ่านมา ระบุว่า “ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ภายใต้การปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ แต่หัวเว่ยก็ดิ้นรนข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้นจนอยู่รอดมาได้ และกำลังเพียรพยายามอย่างยิ่งที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า”

โครงสร้างพื้นฐานคือเรื่องสำคัญ

หัวเว่ย เป็นผู้มีส่วนช่วยเหลือและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่ผู้คน ครัวเรือน และองค์กรต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้โลกก้าวไปข้างหน้า ตลอดช่วงเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ติดตั้งเครือข่ายไปแล้วมากกว่า 1,500 เครือข่าย ในพื้นที่กว่า 170 ประเทศและภูมิภาค รองรับการใช้งานของประชากรมากกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังให้บริการอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์แก่ผู้บริโภคกว่า 600 ล้านคน ความกดดันของสหรัฐอเมริกาที่ต้องการต่อต้านหัวเว่ยจะไม่เพียงทำส่งผลกระทบต่อหัวเว่ยเท่านั้น แต่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานของผู้บริโภค และส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของหัวเว่ยด้วยเช่นกัน

โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) คือรากฐานของโลกอัจฉริยะ โดยภายในปี พ.ศ. 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นตัวแทนภาคอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ากว่า 23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพอย่างมาก และนับเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การก้าวสู่โลกอัจฉริยะที่เปี่ยมไปด้วยโอกาสที่เหนือกว่าความท้าทายอีกมากมาย

นวัตกรรมเรื่องที่ไม่อาจละทิ้ง

หัวเว่ย จะยังคงลงทุนและพัฒนานวัตกรรมสามสาขาหลักในอนาคต ซึ่งครอบคลุมด้านการเชื่อมต่อ ด้านการประมวลผลคอมพิวเตอร์ และด้านอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ และจะร่วมมือกับลูกค้า พันธมิตร องค์กรด้านการจัดตั้งมาตรฐานต่าง ๆ และผู้เล่นอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน การจัดตั้งมาตรฐาน และการแสวงหาบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม และแสวงหาอนาคตร่วมกันต่อไป

นายกัว ผิง ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันโลกของเราอยู่ในระบบบูรณาการที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกัน ทิศทางของกระแสโลกาภิวัฒน์ยังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนไปแต่อย่างใด การมีหลายมาตรฐานและมีห่วงโซ่อุปทานที่กระจัดกระจายนั้นไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใด แต่จะส่งผลเสียรุนแรงต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม ภาคอุตสาหกรรมจึงต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับการคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการแข่งขันที่เท่าเทียม รักษามาตรฐานระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียว พร้อมสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก”

อ้างอิง:

https://www.huawei.com/en/press-events/events/has2020


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line