การประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลสิงคโปร์ให้ประชาชนหยุดงานอยู่บ้าน รวมทั้งให้บริษัทห้างร้านส่วนใหญ่หยุดประกอบกิจชั่วคราว ส่งผลให้พนักงานไม่มีงานทำ แต่บริษัทยังจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้เต็มจำนวน

ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ละประเทศต่างก็มีวิธีในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันไป ที่สิงคโปร์มีนายจ้างมากกว่า 120 บริษัท เลือกใช้วิธีจ่ายเงินเดือนให้กับลูกจ้างเต็มจำนวนแม้ไม่มีงานให้ทำ แต่จะให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา และลดจำนวนวันพักร้อนปีละ 7 วัน ชดเชยให้นายจ้างภายหลัง

โฆษกกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์กล่าวว่า รัฐบาลสิงคโปร์ช่วยพยุงธุรกิจด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้นายจ้าง เพื่อให้มีเงินเดือนจ่ายให้ลูกจ้างในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำ (Jobs Support Scheme Payout) ส่วนลูกจ้างที่เป็นชาวต่างชาติ รัฐบาลจ่ายเงินช่วยเหลือให้คนละ 750 ดอลลาร์สิงคโปร์ เงินเดือนลูกจ้างต่างชาติส่วนที่เกิน 750 ดอลลาร์สิงคโปร์ นายจ้างต้องควักกระเป๋าจ่ายให้ลูกจ้างเอง

ดังนั้นนายจ้างจึงต้องบริหารต้นทุนเพื่อให้อยู่รอด หนึ่งในวิธีนั้นเรียกว่า Time-banking คือการจ่ายเงินเดือนค่าจ้างช่วงที่ไม่มีงานให้ทำเพื่อให้ลูกจ้างอยู่รอด แต่เมื่อเปิดดำเนินธุรกิจได้ตามปกติแล้ว ลูกจ้างต้องทำงานล่วงเวลาให้กับนายจ้าง เพื่อนำไปชดเชยเงินเดือนที่ได้รับช่วงไม่มีงานทำ นอกจากนี้ลูกจ้างยังต้องลดจำนวนวันหยุดพักผ่อนประจำปี เพื่อทำงานชดเชยให้นายจ้างอีกด้วย พูดง่าย ๆ คือ รับเงินเดือนก่อน และทำงานชดเชยให้ภายหลัง

นับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. เป็นต้นมา มีนายจ้างยื่นขอใช้มาตรการ time-banking มากกว่า 120 บริษัท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม, โรงแรม, ค้าปลีก และโรงงานอุตสาหกรรม

อ้างอิง: ThaiPBS