ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาสงครามการค้าที่ระอุระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ยังคงมีความขัดแย้งออกมาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีใครคาดการณ์ได้เลยว่าจะไปจบลงเมื่อไหร่ รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นปี เหล่านี้เริ่มทำให้แบรนด์สินค้าที่มีโรงงานผลิตอยู่ในจีนเริ่มมองหาฐานการผลิตใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

เช่นเดียวกับ Foxconn ซัพพลายเชนผู้ผลิต iPhone ให้กับ Apple ที่ออกมาฟันธงว่า จีนจะไม่ใช่โรงงานโลกอีกต่อไป และบริษัทมีแผนที่ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพิ่มขึ้น หลังจากผลประกอบการในไตรมาส 2 ของธุรกิจออกมาเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเชื่อว่าอำนาจสูงสุดในการผลิตของจีนได้สิ้นสุดลงแล้ว

ตามรายงานจากสำนักข่าว Bloomberg อ้างถึง Young Liu ประธานของ Foxconn ที่ระบุว่าบริษัทมีแผนจะย้ายฐานการผลิตเพิ่มเติมออกจากจีนเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีสินค้าผลิตจากจีนของสหรัฐฯ

ด้าน Reuters รายงานว่า Young Liu มองว่าในแต่ละพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย, อาเซียน หรืออเมริกา ล้วนมีระบบนิเวศน์ทางการผลิตที่แตกต่างกันออกไป แม้ว่าจีนยังคงเป็นส่วนสำคัญในการผลิต แต่การเป็นโรงงานผลิตโลกของพวกเขาได้สิ้นสุดลงไปแล้ว

ปัจจุบัน Foxconn มีกำลังการผลิตอยู่นอกประเทศจีนคิดเป็น 30% เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่มีอยู่ 25%

ทั้งนี้ Foxconn คือพาร์ทเนอร์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ Apple และเป็นผู้รับผิดชอบผลิต iPhone 12 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในไม่ช้านี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีการย้ายฐานการผลิตสินค้าดังกล่าวออกจากจีน แต่ทางบริษัทก็เคยอ้างว่าสามารถผลิต iPhone 12 ได้ในทุกที่ของประเทศอื่น ๆ

ที่มา: appleinsider