เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในเยอรมนี ได้ทดลองบรรจุแรงดันไฟฟ้าขนาดของพลังงานเท่ากับเซลล์แบตเตอรี่ AAA ลงในไมโครซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ที่มีขนาดเล็กเท่าฝุ่นผง ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการปูทางสำหรับนวัตกรรมการเก็บพลังงานขนาดเล็กที่จะสามารถฝังลงในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย สำหรับอุปกรณ์และการรักษาทางชีวการแพทย์

เทคโนโลยีใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้น โดยนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอุปกรณ์ชีวการแพทย์ในอนาคต ที่จะฝังอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะถูกต่อยอดออกมาเป็นเครื่องมือในการตรวจจับเซ็นเซอร์ขนาดเล็กเพื่อตรวจเลือด หรือสามารถพัฒนาให้สามารถสร้างเทคโนโลยีใหญ่กว่าและซับซ้อนกว่านั้น เช่น การจ่ายยาอินซูลินหรือเพื่อสนับสนุนอวัยวะที่ล้มเหลว ให้ยังคงใช้งานต่อไปได้

.

.

อย่างไรก็ตาม ระบบที่ฝังในร่างกายจำเป็นต้องมีความปลอดภัย มีขนาดที่เล็ก และต้องมีพลังงานเพียงพอเพื่อใช้ในการทำงาน เพราะที่ผ่านมาปัญหาด้านพลังงานส่วนใหญ่เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับเทคโนโลยีฝังรากเทียม ซึ่งนั่นทำให้นักวิจัยจาก Chemnitz University of Technology ในเยอรมนี เกิดไอเดีย จนทดลอง และพัฒนาวิธีแก้ปัญหานี้ เพื่อความยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้ นักวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่ "ตัวเก็บประจุแบบซุปเปอร์ชีวภาพ" โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นตัวเก็บประจุขนาดเล็กมากที่ทำจากวัสดุที่เข้ากันได้ดีกับลักษณะชีวภาพของมนุษย์ ทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานจากร่างกายของเราได้ ทำให้พลังงานนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิต หรือแบตเตอรี่ไม่เสียหายไปซะก่อน

.

.

จนถึงปัจจุบัน อุปกรณ์ที่เล็กที่สุดเหล่านี้วัดได้ 3 มม. ซึ่งได้รับการอัพเกรดด้วยต้นแบบล่าสุด ที่เล็กกว่าเดิม โดยมีปริมาตรความจุอยู่ที่ 0.001 มม.เท่านั้น ซึ่งเจ้าซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ชีวภาพ สามารถส่งกระแสไฟได้ถึง 1.6 โวลต์ แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าจุดฝุ่นก็ตาม แต่แม้ว่าแรงดันไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับแบตเตอรี่ขนาดเท่าถ่าน AAA ก็ตริง แต่หากมองในปริมาณกระแสไฟฟ้าที่สามารถไหลผ่านได้นั้นถือว่าต่ำกว่ามาก

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลายคนก็คงรู้สึกทึ่งพร้อมๆกับความหวังที่จะได้เห็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่แน่ว่าหลายโรคร้ายที่ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด เพราะเทคโนโลยียังไปไม่ถึง อาจจะได้รับการพัฒนาจนสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน แม้ว่าซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ชีวภาพจำเป็นจะต้องถูกฝังในร่างกายมนุษย์ หากแต่ถ้ามันสามารถรักษาชีวิตให้กับมนุษยได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าพอที่จะเสี่ยงให้ตัวเราเป็นเหมือนกึ่งมนุษย์หุ่นยนตร์

.