เทศกาลตรุษจีนปี 2565 กำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง แต่ด้วยปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้การจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลนี้ลดลงตามไป เพราะผู้คนต้องรัดเข็มขัด ระมัดระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2565 ของคนกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายอยู่ประมาณ 11,970 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนที่หดตัว 10.4% เพราะได้มีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุมมาเป็นที่เรียบร้อย แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์สินค้าขึ้นราคา โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายหลัก ๆ จะถูกทุ่มไปในเรื่องของการจัดซื้อเครื่องเซ่นไหว้ เพราะเป็นกิจกรรมที่สำคัญของเทศกาล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้เม็ดเงินค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนยังทรงตัวมาจากราคาสินค้าที่ทยอยปรับขึ้นราคา โดยศูนย์วิจัยกสิกรฯ มองว่าสินค้าโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ราคาเครื่องเซ่นไหว้น่าจะปรับราคาขยับสูงขึ้นอีกจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ก็มีแนวโน้มที่จะถูกปรับราคาขึ้นเฉลี่ย 15-30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ส่วนกลุ่มผัก และผลไม้น่าจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10%

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับปัจจุบัน โดยผลสำรวจ เผยว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 71 มองว่า ระดับสินค้าที่ขยับสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งสินค้าที่อยู่ในหมวดเซ่นไหว้ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการตรึงราคาสินค้าบางรายการแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม คนกรุงเทพฯ ยังคงให้ความสนใจทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนอยู่ แต่จะปรับแผนให้มีความสอดคล้องกับกำลังซื้อที่สวนทางค่าครองชีพที่ทยอยปรับสูงขึ้น เลือกใช้จ่ายในส่วนที่สำคัญเป็นหลัก

ด้านผู้ที่ดำเนินธุรกิจที่อยากเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลตรุษจีน จำเป็นต้องวางแผนการตลาด และเพิ่มการบริการตอบโจทย์ลูกค้า จัดโปรโมชันด้านราคา เพิ่มบริการที่อำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้บริโภค ซึ่งคาดการณ์ว่าช่องทางขายออนไลน์จะได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลตรุษจีน