บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานผลประกอบการประจำปี 2564 ของบริษัท และบริษัทย่อยให้กับตลาดหลักทรัพย์ พบว่าธุรกิจมีรายได้รวม 597,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน และมีกำไรสุทธิ 12,985 ล้านบาท ลดลง 19.4%

CPALL ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจลดลงมาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอยลง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนการที่ดำเนินธุรกิจของบริษัทเข้าซื้อ Lotus เมื่อปลายปี 2563 ที่ทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น

เมื่อดูรายละเอียดแต่ละส่วนของธุรกิจ CPALL พบว่า กลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ รวมอยู่ที่ 290,228 ล้านบาท ลดลง 10,477 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยค่าเฉลี่ยของร้าน 7-Eleven มียอดขายต่อวันอยู่ที่ 65,928 บาท ยอดสั่งซื้อต่อบิล 82 บาท ลูกค้าเข้าร้าน 805 คน

อย่างไรก็ตาม มีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ โดยรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม และเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ผ่านช่องทางทั้งรูปแบบสาขา ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ 7-delivery ที่ให้บริการสั่งและส่งสินค้าตามความต้องการ รวมถึง ALL Online ห้างใกล้บ้าน และเว็บไซต์ Shop24

โดยในปี 2565 CPALL ตั้งเป้าที่จะเปิดร้านสะดวกซื้อสาขาใหม่จำนวน 700 สาขา ใช้งบลงทุน 11,500-12,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2564 CPALL อนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 5,389,860,808.80 บาท คิดเป็นร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการและหลังหักภาษีเงินได้