การทำธุรกิจเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย คือคู่แข่งในตลาด แน่นอนว่าใครก็อยากยืนหนึ่งกับในสิ่งที่ทำอยู่ ดังนั้น การสร้างตัวตน ทำการตลาด จัดโปรโมชันให้เป็นที่ดึงดูด อยู่ในสายตาผู้บริโภคเพื่อให้เป็นคนตัดสินในท้ายที่สุด

หากพูดถึงแบรนด์เบอร์เกอร์ แน่นอนว่าให้ตลาดชื่อแบรนด์อันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น McDonald’s กับ Burger King ที่แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดนี้มาอย่างยาวนาน และกลายเป็นมหากาพย์กินเวลานานมามากกว่า 60 ปี

ย้อนกลับไปในช่วงนั้น Burger King เริ่มเปิดศึกกับ McDonald’s ที่จะดำเนินธุรกิจได้ดีกว่า โดยการออกเมนูที่มีชื่อว่า “Whopper” ด้วยจุดขายที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกเมนูของ McDonald’s จากจุดนี้ทำให้ Burger King กลายเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้น จนต่อมา McDonald’s อยู่เฉยไม่ได้จนต้องออกเมนูใหม่ชื่อว่า Big Mac เข้ามาสู้

ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อความเป็นหนึ่งในตลาดเบอร์เกอร์ มีครั้งหนึ่ง Burger King ถึงขนาดซื้อตัว Donald N. Smith ผู้บริหารฝ่ายการตลาด และทีมงานฝีมือดีของ McDonald’s โดยผลงานมีตั้งแต่การออกเมนูที่คล้ายกับ McDonald’s เช่น ชุดอาหารเช้า, การทำโฆษณาที่ออกแนวจิกกัดคู่แข่ง ซึ่งมีอยู่โฆษณาหนึ่งที่ทาง McDonald’s ทนไม่ไหวถึงขั้นฟ้องศาล แต่สุดท้ายถูกยกฟ้อง

หลังจากนั้น เรียกได้ว่าการแข่งขันในตลาดของเบอร์เกอร์ของทั้งสองแบรนด์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความดุเดือด มีการจิกกัดกันไปมาของทั้งสองแบรนด์ ตัวอย่างในปี 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส จะเห็นเทรนด์บริการแบบ drive-thru กำลังมา เมื่อเทียบสาขาที่ให้บริการพบว่า McDonald’s มีจำนวนมากกว่า จึงมีการสร้างบิลบอร์ดคู่กัน บิลบอร์ดแรกเป็นระยะทางที่จะไปสาขา Burger King อีกบิลบอร์ดหนึ่งเป็นระยะทางที่จะไปสาขาของ McDonald’s แน่นอนว่าสาขาของ McDonald’s นั้นอยู่ใกล้กว่า

อีกทั้ง ยังมีการทำโฆษณาออกมา โดยใช้จุดขายของคู่แข่งมานำเสนอ หรือทำให้อีกฝ่ายดูเป็นตัวตลกในสายตาผู้บริโภค

แม้เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องที่ดุเดือด แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นให้แบรนด์ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาสินค้า และบริการ สุดท้ายผลประโยชน์จะตกมาอยู่กับผู้บริโภคในที่สุด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• อยากลองบ้าง! คนญี่ปุ่นทำเบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่น ตามรอย Burger King ไทย