วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2567

“แหลมเกต” case study : SMEs ร้านอาหารด้านการใช้สื่อดิจิตอลทำการตลาด

by Smart SME, 23 พฤศจิกายน 2559

ถ้าจะพูดถึงร้านอาหารซีฟู้ดบุฟเฟต์สุดชิคที่เป็น destination ของคนรุ่นใหม่ๆในกรุงเทพฯเวลานี้ คงหนีไม่พ้นร้าน “แหลมเกต” (Laemgate) จากความต่างอันโดดเด่นบวกกับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์อย่างถึงกึ๋น ทำให้ “แหลมเกต”กลายเป็นจุด check in มากที่สุดจุดหนึ่งของคนมีสไตล์หลงไหลความทันสมัย และ Smart SME ไม่พลาดที่จะพาคุณไปศึกษาถึงกลยุทธ์เด็ดหมัดโดนของแบรนด์นี้ โดยวิเคราะห์ผ่านมุมมอง คุณชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย (ครูชัย) นักการตลาดดิจิทัลและเจ้าของแฟนเพจ M.I.B Marketing In Black 13932749_1079414862146382_6600055209983815659_n กลยุทธ์อะไรที่สามารถพา “แหลมเกต” ให้แจ้งเกิด? เริ่มจากตัวโปรดัคของ“แหลมเกต” มีความอร่อย, คุ้มค่าและร้านซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ยังมีไม่มาก ถ้าเทียบกับร้านบุฟเฟต์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ชาบู หรือปิ้งย่าง ที่ค่อนข้างมีเกลื่อนตลาด “แหลมเกต” เป็นร้านอาหารทะเลที่มีโปรดัคหลากหลาย มีความพิเศษ คุ้มค่า เช่นหอยนางรมตัวใหญ่ที่บางร้านขายตัวละ 80 บาท แต่ที่นั่นสามารถกินได้แบบเป็นบุฟเฟต์ คนไปก็รู้สึกคุ้ม ซึ่งที่ร้านน่าจะสามารถควบคุมคอร์สได้ดี ส่วนทางด้านการตลาดมีหลายจุดที่ดี แต่ในแง่ของออนไลน์คือ
  1. ใช้ influencer ได้เจ๋งมาก มีการทำ PR ในสื่อโซเชียลได้ดีจนขนาดที่ว่ามีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ ส่วนคนที่ติดตาม influencer ก็จะรู้จักแบรนด์และส่งต่อแบรนด์ให้คนอื่นๆรู้จัก จากการแชร์ content และสุดท้ายก็ตามมาทานที่ร้าน
  2. ทำ media ออกมาได้ดีเยี่ยม  เวลาเขาออกสื่อแต่ละตัวไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, วีดีโอหรืออะไรต่างๆ ทำภาพได้น่าสนใจ visual ของเขาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการจัดตกแต่งร้านหรือบนสื่อออนไลน์ การถ่ายรูปของเขาดูเหนือระดับมาก ภาพอาหารดูน่ากิน น่าเห็น น่าอร่อย คนจะรู้สึกถึงความอร่อยตั้งแต่บนหน้าเฟสบุ้คของเขาแล้วถึงแม้ว่ายังไม่เคยไปลองกิน
  3. สร้าง storytelling น่าสนใจ คือเขาจะมีกลยุทธ์การเล่าเรื่องที่ดี ก็อย่างที่บอกว่ามีการเล่าเรื่องผ่านภาพ เล่าเรื่องผ่านตัวละครนั่นก็คือพรีเซนเตอร์ ซึ่งน้อยร้านอาหารมากที่จะมีแบบนี้และกลยุทธ์การใช้พรีเซนเตอร์ของเขาเป็นพรีเซนเตอร์ที่ดี ทำให้ “แหลมเกต” เป็น case study สำหรับคนที่ทำร้านอาหารแล้วอยากทำการตลาดออนไลน์ดีๆเพราะ“แหลมเกต”เป็นตัวอย่างที่ดีในทุกๆด้านเลย
13336048_1041001779321024_4003725086255966057_n ดังเร็วขนาดนี้ ควรรับมือยังไง? พอดังเร็วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คนก็จะแห่ไปกินเยอะ แต่เมื่อคนที่ไปกินรับบางอย่างไม่ได้ก็จะเกิด bad comment, bad complain ออกมา สังเกตว่าจังหวะการเคลื่อนที่ของ “แหลมเกต” จะไม่ aggressive มาก คือในความเป็นจริงเขาสามารถเปิด 5 สาขาได้รวดเดียวเมื่อเทียบกับการเติบโตในระดับนี้ แต่เขาเลือกที่จะเปิดเพียง 1 สาขา จากที่ตั้งเดิมอยู่ที่ซอยอารี แต่เพราะปัญหาการเข้าถึงที่จอดรถยาก เขาเลยย้ายมาอยู่ที่ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น ในบางธุรกิจที่เติบโตเร็วขนาดนี้ คงรีบคิดแล้วว่าจะขยายสาขาต่อยังไงในช่วงบูมๆ แต่โชคดีที่ “แหลมเกต” เติบโตมาในแบบที่ค่อนข้างมั่นคง เพราะฉะนั้นการเติบโตของเขาถ้าใช้จังหวะนี้จะไม่ค่อยเกิดปัญหาจากเท่าที่เห็นในปัจจุบัน และเขายังสามารถจัดการกับวัตถุดิบได้ดีเรียกว่าไม่มี bad comment เลย พูดถึงจุดเด่นมาเยอะแล้วขอความเห็นจุดด้อยบ้าง? จุดด้อยของ “แหลมเกต” น่าจะเป็นเรื่องของอนาคต ณ ตอนนี้ผมมองว่าเขาเปลี่ยนจุดด้อยในธุรกิจนี้ให้กลายเป็นจุดเด่นได้ นั่นคือเรื่องของโปรดัค คือต่อให้เขาทำการตลาดแบบห่วยๆแต่ต้องยอมรับว่าสินค้าเขาดีจริงอาหารเขาอร่อยจริง คุ้มจริง อย่างเวลาเราไปกินซีฟู้ด ปลาหนึ่งตัวก็ 300 - 400 แต่“แหลมเกต”เก็บคนละ 600 นิดๆ ผมมองว่ามันคุ้มมาก อีกอย่างเวลาเราไปร้านอาหารบุฟเฟต์ส่วนใหญ่ก็มักชอบกินเอาคุ้ม แต่ร้านนี้ได้ทั้งการบริการที่ดีและสินค้า premium มันเลยกลายเป็นจุดเด่นทั้งหมด แต่พอเริ่มมาต้นดี เมื่อเวลาคนไปกินซ้ำอีกในครั้งถัดๆไป วัตถุดิบเกิดลดคุณภาพหรือของบางอย่างเกิดหมดคือคนตั้งใจไปกินเมนูนี้แต่ของดันหมด อาจเพราะควบคุมต้นทุนไม่ไหวควบคุมต้นทุนไม่ได้ มันก็อาจพลิกจากดีมากกลายเป็นแย่ไปเลย ควรต้องควบคุมสิ่งนี้เพราะตลาดของเขาใหญ่ลูกค้าเขามีทั้งไทยและต่างชาติ อนาคตคิดว่าควรไปในทิศทางไหนให้รุ่ง? เรื่องการตลาดขอให้ keep momentum ไว้ แต่สิ่งที่ต้องใส่ใจคือเรื่องของ operation ภายใน เพราะมันสำคัญกับร้านอาหารมากที่สุด ความท้าทายหลักของ “แหลมเกต” คือจะทำอย่างไรให้รักษามาตรฐานระดับที่สูงมากแบบนี้ได้ แต่ความท้าทายที่ใหญ่กว่านั้นคือจะขยายสาขาอย่างไรโดยที่ ไม่เสีย positioning ไม่เสียคุณภาพอาหารและไม่เสียจังหวะเรื่องการตลาดที่ทำมาเนื่องจากมี momentum ที่ดีแล้ว คนที่ทำธุรกิจร้านอาหารถ้าไม่เวิร์คตั้งแต่ต้นก็เจ๊งเลย แต่ส่วนใหญ่มักเจ๊งยากเพราะคนต้องกินต้องใช้  แต่!!จากประสบการณ์ที่เห็นคนทำร้านอาหารจนได้ดีแล้วเจ๊ง เกิน 85% มักเกิดขึ้นในจังหวะการขยายสาขา บางรายขยายแฟรนไชส์แล้วเจ๊ง แต่อยู่สาขาเดียวแบบ“แหลมเกต” นี้เจ๊งยาก อาจเจอแค่ปัญหาเรื่องยอดขายสูงต่ำ แต่ก็มีวิธีแก้ด้วยการอัดโปรโมชั่นหรือออกเมนูใหม่ การขยายสาขาต้องใช้เงินลงทุนสูง แล้วเงินที่ลงทุนไปก็ไปจมอยู่กับหลายอย่าง บางครั้งพนักงานไม่พอและอะไรต่างๆไม่พอ ลูกค้าไม่พอใจเกิด bad comment ขึ้นมาแล้วจะลำบาก ฉะนั้นสิ่งที่ “แหลมเกต” ต้องระวังก็คือการขยายสาขา โดยเฉพาะการขยายแบบก้าวกระโดด อย่างเช่นตอนนี้ “แหลมเกต” ดังแล้ว ห้างก็จะชวน คนก็จะมาขอซื้อแฟรนไชส์ คนที่มีที่ว่างๆก็จะชวน ทุกคนชวนหมด ควรระวังในเรื่องความหลงใหลในความสำเร็จของตัวเองมากเกินไป เพราะถ้าเราไปขยายสาขาในจังหวะที่ไม่พร้อม เงินที่คิดว่าจะได้ก็อาจยาก สาขาที่2 อาจจะทำเงินน้อยกว่าสาขาที่1 และสาขาที่ 3 ก็อาจจะขาดทุนจนต้องมาเอาเงินสาขาที่1และ2 ไปหมุน บางธุรกิจมีถึง 5 สาขา แต่เงินทั้งหมดที่ได้เท่ากับมีสาขาเดียว 14907266_1157314517689749_8254063639454864794_n 13669009_1069201736501028_7470691050926820467_n 13412923_1044723152282220_4733477889940956536_n 13567250_1057490394338829_4628680400944390087_n 13659084_1060459930708542_8978182300149567436_n

Mostview

เศรษฐกิจไม่ดี! KFC-Pizza Hut ในจีน ดึงกลยุทธ์สุดฤทธิ์เรียกลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด

Yum China Holdings เจ้าของ KFC และ Pizza Hut เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในจีน วางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่ยังไม่เคยเปิด โดยใช้กลยุทธ์ขายเมนูในราคาต่ำเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาในจำนวนมาก

นี่คือเหตุผล เพราะอะไรการทำงานหนักไม่การันตีว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป

ทุกคนมักคิด และถูกปลูกฝังมาตลอดว่าให้ทำงานหนักเข้าไว้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่นี่อันเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้ หากเราตั้งข้อสงสัยว่า “ความหมายการทำงานหนักที่แท้จริงคืออะไร?” ทำไมผู้คนต่างทำตาม และดิ้นรนให้เกิดขึ้นจริง

CARS24 ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองยุติดำเนินกิจการในไทยอย่างเป็นทางการ

CARS24 ธุรกิจซื้อ-ขาย-เทิร์น รถยนต์มือสอง ได้ยุติกิจการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยในแถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า

เกษตรกรเวียดนามไม่ทนหันปลูกทุเรียนส่งออกจีนแทนปลูกกาแฟที่ขาดแคลน แถมราคาถูกกว่า

ราคากาแฟโรบัสต้าทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ที่สุด กำลังต่อสู้กับภัยแล้ง รวมถึงเกษตรกรได้เปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแทน

แม็คโคร-โลตัส ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 127,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 พบว่ามียอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

SmartSME Line