งบ กำไร ขาดทุน เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของฝ่ายการเงินที่ต้องดูแลเรื่องของการบริหารเงินภายในบริษัท ซึ่งถ้าบริหารดีบริษัทก็รอด ถ้าบริหารไม่ดีบริษัทก็ต้องเลิกกิจการไป ดังนั้นถ้าหากคุณประกอบกิจการ ต้องวิเคราะห์การเงินให้รอบคอบ เพื่อพยุงบริษัทให้ก้าวกระโดดในตลาดได้อย่างมั่นคงด้วย

       ดร.วัลลภา บุญยมานพ ที่ปรึกษาสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ เล่าในงาน SMART SME EXPO 2015 ว่า “จริง ๆ แล้วตัวเลขมีตั้งแต่ 0- 9 เท่านั้น ถ้าเลข 0 นำหน้าไม่มีค่า แต่ถ้าเลข 0 ตามหลังนั้นมีค่า ฉะนั้นเรามาดูภาพรวมก่อนค่ะว่าฝ่ายการเงินมีความจำเป็นอย่างไร ซึ่งก่อนที่จะลงลึกเรื่องการเงินสิ่งที่เราต้องมีคือ 1.รูปแบบของธุรกิจ 2.วัตถุประสงค์ของบริษัท 3. ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทน เมื่อมีบริษัทเราก็ต้องมีผู้ถือหุ้นเช่นกัน ดังนั้นหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายการเงิน ต้องทำให้มูลค่าหุ้นสูงสุด โดยการพยากรณ์การวางแผน ตัดสินใจลงทุนและจัดการหาเงินทุน อีกทั้งต้องประสานงานและควบคุมไปพร้อมกันด้วย รวมถึงต้องติดต่อตลาดการเงินอีกด้วย นอกจากนี้ในเรื่องของฝ่ายการเงินคุณต้องรู้จักความเสี่ยง และเตรียมยอมรับความเสี่ยงเพื่อที่จะหาทางหลีกเลี่ยงกับเหล่าปัญหานั้น เพราะฉะนั้นหน้าที่ฝ่ายการเงินที่สำคัญคุณต้องบริหารจัดการให้ดี เนื่องจากการเงินจะเป็นตัวชี้วัดธุรกิจของเราว่าจะไปในทิศทางใด”

        สำหรับภาพรวมการเงินของรอบสหัสวรรษใหม่ ซึ่งดร.วัลลภา เล่าว่า “ในปัจจุบันเรื่องของการเงินต้องดูถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้นับว่าจะกลายเป็นผลกระทบอย่างยิ่งต่อระบบการเงิน เนื่องจากถ้าเราไม่สนใจเทคโนโลยี ธุรกิจของคุณก็จะล้าหลังแน่นอน ดังนั้นเมื่อหุ้นของบริษัทมีราคาสูงขึ้นจะเป็นผลดีหรือไม่นั้น สามารถตอบได้ว่า เป็นผลดี เพราะมาจากสินค้าที่คุณผลิตนั้นมีคุณภาพ และคุณค่า ทำให้สังคมยอมรับและซื้อสินค้านั้นมาใช้ อีกทั้งถ้าหากถามว่าบริษัทควรปฏิบัติตามหลักจริยธรรมหรือไม่ ขอตอบเลยว่า ใช่ เพราะเมื่อใดธุรกิจของคุณดีต้องสังคม เรื่องดีๆ ก็จะตามมา ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจธุรกิจคุณมากขึ้น”

จริยธรรมทางธุรกิจ

       ดร.วัลลภา เล่าถึงจริยธรรมว่า “เมื่อบริษัทมีจริยธรรม 1.บริษัทก็ไม่ต้องเสียค่าปรับ และค่าทนายความ เนื่องจากไม่ได้ทำการอะไรให้สังคมเสื่อมเสีย 2.เมื่อทำในข้อ 1 ได้แล้วก็จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณมีความเชื่อถือในสาธารณะเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อธุรกิจมีรายได้สูงสุดก็ไม่ได้แปลว่าธุรกิจของคุณจะสูงที่สุด ซึ่งต้องมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องคิดอีก เช่น งบของการเงิน ซึ่งเป็นการแสดงผลประกอบการว่าบริษัทของเราทำกำไรได้เท่าไหนในรอบหนึ่งปี หลังจากที่เราประเมินงบแล้ว ต้องรู้จักงบขาดทุน หรืองบขัดสน ซึ่งสมมติฐานว่า ถ้าขาดทุน 3 ปีควรเลิกกิจการเสียเถอะ แต่คนไทยบอกว่า ให้ 5 ปีเถอะค่อยเลิกกิจการ ฉะนั้นการให้ความสำคัญเรื่องการเงินจึงต้องมาก่อนด้วยเสมอ”

สินทรัพย์หมุนเวียนคือ

       “ก่อนที่คุณจะซื้อเครื่องตีไข่มา ต้องดูว่าคุณลงทุนไปเพื่ออะไร แล้วลงทุนในงบประมาณไหน ซึ่งต้องกำหนดว่า สิ่งที่เราซื้อไป ส่งผลประโยชน์อะไรต่อบริษัทบ้าง ฉะนั้นสินทรัพย์สามารถแบ่งได้ 2 ฝั่งคือ สินทรัพย์หมุนเวียนคือ สินทรัพย์ที่ใช้แล้วหมดไป ส่วนสินทรัพย์อีกอย่างหนึ่งคือ สินทรัพย์แบบไม่หมุนเวียน เช่นเครื่องจักรหรือโรงงาน เป็นต้น นอกจากนี้ต้องมาดูกันว่า งบ กำไร ขาดทุน มาจากอะไรบ้าง สมมุตว่าเราตั้งธงไว้ว่า เราผลิตสลัดขาย ต้องดูรายได้หลักว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งถ้ามีส่วนเหลือของเศษขนมปังในการทำสลัด ต้องดูต่ออีกว่านำสามารถเศษขนมปังนี้ไปทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เกิดกำไร แต่ถ้าทิ้งไปเฉย ๆ กำไรก็หายไป เรียกได้ว่าการขาดทุนนั่นเอง”

กำไรก่อนภาษี

       “หลายคนคิดว่า ถ้าบริษัทขาดทุนทำไมต้องเสียภาษี ตัวย่างเช่น ค่ารับรองของบริษัทเยอะต้องขาดทุน แต่ถ้าหักออกมาแล้วต้องเดินโควตา โดยจับตัวของงบการเงินให้ได้ ว่าสิ่งนี้ไม่ดี ไม่ควรที่จะทำ แล้วค่อยเอามาหักลบการเงิน เดี๋ยวเราก็จะรู้ว่าทำไมถึงต้องเสียภาษี ดังนั้นต่อมาเรามาดูว่า งบกระแสเงินสดคืออะไร ซึ่งถ้าเปรียบเทียบในงบแสดงฐานะการเงิน 2 งวด และสรุปรายการที่ทำให้เงินสดเพิ่มขึ้น หรือลดลง ก็ต้องดูแหล่งทางการเงินให้ดีด้วย เพราะฉะนั้นสามารถสรุปได้ว่า การวิเคราะห์การเงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบริษัทต้องใส่ใจและดูแล เพื่อให้รู้ว่าบริษัทของมีผลกระทบอะไรถึงไม่ได้ยอดตามเป้าหมาย”ดร.วัลลภา เล่าทิ้งท้าย