ณ เวทีกลาง งาน Smart SME Expo 2019 #ที่เดียวจบพบทางรวย ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เล่าว่า กองทุนหมู่บ้านเป็นแหล่งทุนเพื่อผู้ประกอบการในชุมชน เพื่อให้ประชาชนสามารถกู้ยืมไปประกอบอาชีพ โดยยื่นกู้กับพี่น้องประชาชนด้วยกัน ซึ่งกรรมการจะเป็นคนในชุมชนที่ถูกเลือก ซึ่งจะมีความเข้าใจกัน และรู้ว่าอะไรควรสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีโครงการประชารัฐ เพื่อให้ประชาชนกู้ยืมไปทำร้านค้า โรงน้ำดื่ม หรือทำตลาด ปัจจุบันมีร้านค้าเครือข่ายประชารัฐกว่า 20,000 แห่ง ทั่วประเทศ มีโรงน้ำดื่ม 10,000 แห่ง และมีการสร้างกิจกรรมภายใต้โครงการเครื่อข่ายประชารัฐกว่า 200,000 โครงการ

กองทุนหมู่บ้านจึงอยู่ใน 3 สถานะ คือ 1. ผู้ผลิต ซึ่งเป็น SMEs ในโครงการ 2. สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ในฐานะผู้บริโภค 3. คือหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อให้ความรู้ผู้ผลิตของเราสามารถใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า และเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้ให้ความรู้กับผู้ผลิตอย่างเดียว เรายังให้ความรู้กับผู้จำหน่ายด้วย

โดยเงินทุนที่ให้จะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ 1. ทุนที่ฝากให้กองทุนบริหาร และให้สินเชื่อกับสมาชิก 2. ให้ทุนกับกองทุน เพื่อไปลงทุนเอง อย่างกรณีเกษตรกรปลูกสับปะรดแล้วขายไม่หมด ถ้าต้องการเอาไปแปรรูปก็ต้องซื้อเครื่องจักร กทบ. ก็จะมีเงินก้อนให้กองทุน ไปเป็นทุนสำหรับส่วนรวมเพื่อไปดำเนินการต่างๆ เช่น การซื้อเครื่องจักรแล้วให้สมาชิกมาเช่าใช้ได้ในราคาถูก 3. คือทุนที่สนับสนุนเป็นรายโครงการ เพื่อส่งเสริมให้แต่ละชุมชนนำของดีต่างๆ มาสร้างเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของชุมชน

นอกจากนั้น กทบ. ยังสนับสนุนกระบวนการต่างๆให้ครบวงจรมากขึ้น เช่น การสร้างความน่าเชื่อถือในตัวสินค้าชุมชน ซึ่งก็ได้มีพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมสร้างความมั่นใจ เช่น สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เซ็นทรัลแล็บ และอย. เพื่อร่วมสร้างคุณภาพ มาตรฐานในตัวสินค้าชุมชน และเป็นการส่งเสริม ขับเคลื่อน SMEs อย่างครบวงจร