วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

ทำไมธุรกิจยุคใหม่ ถึงประสบความสำเร็จได้ด้วยการจ้าง Freelance มากกว่าพนักงานประจำ

by Smart SME, 4 ธันวาคม 2562

เดี๋ยวนี้การทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะมีลูกจ้าง หรือพนักงานประจำไม่เยอะ ใช้คนจำนวนน้อยแต่มากความสามารถ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการจ้าง และดูแลพนักงาน ซึ่งมันส่งผลต่อพวกสาธารณูปโภคต่างๆ ในการใช้ชีวิตในออฟฟิศด้วย ยิ่งคนเยอะ ยิ่งมีปัญหามาก ทั้งการประสานงานคนในองค์กร ทั้งการเมืองภายในบริษัท รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองทำให้บริษัทยุคใหม่ ธุรกิจสมัยใหม่ทั้งหลายต่างมีแนวโน้มที่จะจ้างงานโดยใช้ Freelance กันมากยิ่งขึ้น


ซึ่งเทรนด์การใช้งาน Freelance นี้เกิดขึ้นมาแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศที่มีเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมที่เจริญรุ่งเรือง เนื่องจากการทำงานติดต่อกับ Freelance นั้นจะไม่มีสะดุด เหมือนคุณจ้างพนักงานประจำคนหนึ่ง แค่เพียงเขาไม่ได้เข้าออฟฟิศเท่านั้นเอง ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีการจ้างงานฟรีแลนซ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรมากกว่า 40% เลยทีเดียว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ


ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางการลดต้นทุน หรือบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพล่ะก็ คุณควรเปิดใจ และศึกษาการจ้างฟรีแลนซ์ตั้งแต่ตอนนี้

ประโยชน์ที่คุณจะได้ เมื่อจ้าง Freelance แทนพนักงานประจำ

1. ทำให้ต้นทุนการทำงานถูกลง

เพราะอัตราการจ้างฟรีแลนซ์คนหนึ่งนั้นถูกกว่าการจ้างพนักงานเงินเดือนอย่างมาก เนื่องจากพนักงานประจำ คุณต้องมอบให้ทั้งสวัสดิการ ค่าประกันสังคม รวมถึงมีการดูแล ต้อนรับต่างๆ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในออฟฟิศ ไปจนถึงอุปกรณ์ทำงาน ซึ่งต้องลงทุนจัดหาให้ตามจำนวนพนักงานอย่างเพียบพร้อม ต่างจากการใช้บริการฟรีแลนซ์ ที่คุณแค่บรีฟในสิ่งที่ต้องการ และรอรับงานในวันเดดไลน์ได้เลย ดูแค่ผลลัพธ์ ส่วนวิธีการเขาจะจัดการเอง

2. ได้คนเก่งมาทำงานให้

การจะจ้างพนักงานสักคนคุณต้องมีการนัดสัมภาษณ์ และต้องผ่านการเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่มาแล้วมากมาย กว่าจะเจอคนที่เก่งหรือทำงานที่คุณต้องการได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลามาก และมันส่งผลกระทบต่อบริษัทที่เพิ่งก่อตั้ง หรือมีทุนน้อย ไม่เพียงพอต่อการจ้างงานคนเก่งให้มาอยู่ใต้บังคับบัญชา ดังนั้นการจ้างงานฟรีแลนซ์ที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงไปเลยตั้งแต่แรกก็จะทำให้คุณได้งานคุณภาพมาแบบไม่ต้องเสี่ยงดวง ไม่ต้องเสียเวลาเสาะหาคนที่จะทำงานให้คุณได้จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ และไม่ต้องจ้างแบบเต็มจำนวน แค่อยากได้งานจากเขาเมื่อไหร่ก็ติดต่อไปเท่านั้นพอ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายถูกลงอีกด้วย

3. องค์กรเล็ก แต่รับงานได้เพียบ

คุณสามารถรับงานได้เยอะมากขึ้นจากการจ้าง Freelance เนื่องจากคุณไม่ต้องถูกจำกัดด้วยจำนวนพนักงานในสังกัด แต่คุณมีพนักงานให้เลือกใช้งานได้เพียบทั่วประเทศไทย ซึ่งถ้าคุณจ้างพนักงานประจำ คุณจะมีพนักงานได้แค่ไม่กี่คน ซึ่งส่งผลให้ทำงานได้ไม่ทัน แต่ถ้าคุณจ้างฟรีแลนซ์ คุณจะส่งงานให้พวกเขามากมายแค่ไหนก็ได้ ส่งผลให้คุณรับงานจากลูกค้าได้เพิ่มขึ้น มีเวลาในการไปติดต่อลูกค้า หรือบริหารธุรกิจในส่วนอื่นได้อย่างเต็มที่ยิ่งกว่าเดิม 

4. รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

แน่นอนว่าการจ้างพนักงานประจำมาให้เข้าออฟฟิศคุณทุกวัน อาจทำให้คุณรู้สึกว่างานเดิน และมีประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่าพนักงานส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ทำงานตลอดเวลา 8 ชั่วโมงต่อวันอยู่แล้ว ถึงเขาจะเข้าออฟฟิศตรงเวลา เลิกงานตรงเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานคุ้มเวลา เพราะมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งที่พนักงานมานั่งเล่น เข้าเฟซบุ๊ก ดูยูทูปในเวลางาน หรือแอบอู้สูบบุหรี่ เข้าห้องน้ำนั่งแช่ และอื่น ๆ มากมาย ซึ่งนี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์เงินเดือนที่อาจทำให้ผู้ประกอบการขัดใจ และรู้สึกไม่คุ้มกับเงินที่จ้างมา คล้ายโดนเอาเปรียบ และแน่นอนว่าการจ้างฟรีแลนซ์จะช่วยให้ปัญหานี้หมดไปในทันที

5. ได้ไอเดียสดใหม่ไม่ซ้ำเดิม

ธุรกิจบางอย่างที่ขายไอเดียความคิดสร้างสรรค์ การทำงานในสภาพแวดล้อมเดิมๆ คนเดิมๆ กฎระเบียบในองค์กรแบบเดิม อาจส่งผลให้การทำงานมีความซ้ำซาก จำเจ และส่งผลให้อยู่แต่ในกรอบ ไม่มีอะไรสดใหม่ การจ้างฟรีแลนซ์ให้เข้ามาช่วยเติมเต็มสีสันตรงนี้จึงจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้หลุดออกจากรูปแบบแพทเทิร์นเหล่านั้นได้ และช่วยให้ลูกค้าถูกใจในความสดใหม่ไม่จำเจ

6. ทำงานได้ตลอดไม่มีแม้แต่วันหยุด

สุดท้ายแล้วฟรีแลนซ์นั้นจะมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากกว่าพนักงานประจำ ตรงที่พวกเขารับงานเป็นจ็อบ และทำงานตามบรีฟเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่านี่คือเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด เพราะฟรีแลนซ์จะดำเนินการตามความสะดวกของเขาและทำงานส่งมอบให้คุณตามบรีฟแน่นอน โดยไม่คิดเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว ซึ่งถ้าคุณจ้างพนักงานประจำ สิ่งที่ต้องปวดหัวตามมาคือค่าโอที และยิ่งคุณอยู่ในประเทศที่มีวันหยุดราชการเยอะมากอย่างประเทศไทย (ปีละ 19 วัน) การจ้างฟรีแลนซ์ยิ่งมีความจำเป็น

 

 


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line