ชาวจีน คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากที่สุด และครองแชมป์มาอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนได้จากตัวเลขในช่วงตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 62 ที่มีจำนวน 10.4 ล้านคน นำมาเป็นอันดับ 1

โดยช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีน รวมถึงทั่วโลก คงหนีไม่พ้นช่วงเทศกาลตรุษจีนที่คนจีนต่างแพคกระเป๋าเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างเงินหมุนเวียนให้กับระบบเศรษฐกิจในแต่ละประเทศจุดหมายปลายทางได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดโดยมีจุดกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีนในตอนนี้ ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่อาจจะซบเซานานถึงครึ่งปีจากการขาดหายของนักท่องเที่ยวดินแดนมังกรไป ไม่เว้นแม้กระทั่งไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักที่อาจจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปกว่าแสนล้านบาท

• มีแต่เจ็บตัว! ไวรัสอู่ฮั่นทำธุรกิจท่องเที่ยวไทยรายได้หายไปกว่าแสนล้านบาท 

สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนถึงมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้นการเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน หรือมากกว่า 4 เท่าของสหรัฐฯ และมากกว่า 21 เท่าของสหราชอาณาจักร ด้วยประชากรที่มากทำให้จีนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ด้านการท่องเที่ยวในปี 2018 มีชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกถึง 220 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่จะอยู่ในชนชั้นระดับ-ชนชั้นระดับสูงถึง 18% ของประชากรทั้งหมด และมีอายุเฉลี่ย 34 ปี นิยมการเดินทางผ่านเอเจนซี่

สำหรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น พวกเขาไม่สามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้นอกจากภาษาแมนดาริน หรือกวางตุ้ง ดังนั้นผู้ประกอบการ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องควรจะเพิ่มเนื้อหาบนเว็บไซต์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เป็นภาษาจีน ด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ย (รวมค่าที่พัก-ค่าเดินทาง) จะตกอยู่ที่คนละ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 123,000 บาท) ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับการช้อปปิ้ง

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่สำคัญของนักท่องเที่ยวเที่ยวจีน คือพวกเขาชอบถ่ายรูปแบบเซลฟี่ พร้อมโพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดีย โดยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจะเป็นมรดกทางวัฒนธรรม, พิพิธภัณฑ์, หอศิลป์ รวมถึงการท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงหลัง

ที่มา:
https://pxcom.media/en/blog/the-chinese-tourists-in-2019-their-profile-and-how-to-reach-them/ 

https://www.chinadaily.com.cn/a/201902/27/WS5c75c041a3106c65c34eb8ce_3.html