วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2567

เทคโนโลยี IoT พลิกโฉมธุรกิจเกษตร สร้างโอกาสช่วงชิงตลาดสินค้าเกษตรไทย

by Phongsak, 14 พฤษภาคม 2563

ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย ระบุเทคโนโลยีการเกษตรที่นำเอา IoT มาใช้ เป็นทางออกของธุรกิจการเกษตร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันช่วยทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น นอกจากการเพิ่มความแม่นยำในการเพาะปลูก และช่วยให้สามารถบริหารจัดการการผลิตด้วยตัวเองจากฐานข้อมูลที่เป็นเรียลไทม์ ช่วยลดต้นทุนการผลิตและความเสียหายจากสภาพภูมิอากาศ และที่สำคัญเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ให้กลายเป็น Smart Farmer

IoT เทคโนโลยีเบื้องหลังความสำเร็จของ Agritech

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเกษตร หรือ Agritech ก้าวหน้าไปมาก สามารถปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเกษตรไทย

โดยเฉพาะเทคโนโลยี IoT ซึ่งหัวใจหลัก คือ การใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ติดตามและตรวจสอบสถานะข้อมูลที่จำเป็นในการเพาะปลูกแบบเรียลไทม์ และเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ผลิตจริงได้ด้วยตนเอง ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจและบริหารจัดการการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วยให้เกษตรกรรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ลดความเสียหายของผลผลิตจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มส่งผลกระทบรุนแรงมากขึ้น สามารถรับมือกับยุคสินค้าออร์แกนิคที่ลดการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก แต่ยังให้คุณภาพของผลผลิตต่อไร่ดีเท่าเดิม

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังเป็นแรงผลักดันให้ภาคเกษตรต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทดแทนการใช้แรงงาน ลดการสัมผัสและการติดต่อระหว่างมนุษย์

เทคโนโลยี IoT ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจเกษตรใน 3 กลุ่ม

1. ผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)

2. ผู้ผลิตสินค้าตามเงื่อนไขเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีตลาดรองรับชัดเจน

3. ธุรกิจร้านอาหารที่ควบคุมห่วงโซ่การผลิตวัตถุดิบทางการเกษตรด้วยตนเอง มุ่งเน้นตอบโจทย์ด้านสุขภาพ

ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีผู้ประกอบการกว่า 6 พันราย มีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเทคโนโลยี IoT ช่วยลดต้นทุนได้ถึง 30-40% และช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ถึง 1.4-1.9 เท่า หากมีการนำเทคโนโลยี IoT มาใช้อย่างจริงจังควบคู่กับเทคโนโลยีทางการเกษตรที่เหมาะสมอื่น ๆ ผลผลิตข้าวต่อไร่มีโอกาสเพิ่มจาก 456 กก./ไร่ เป็น 638-933 กก./ไร่ ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดส่งออกข้าวได้ง่ายขึ้น และในอนาคตจะใช้ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ช่วยวิเคราะห์ วางแผนและตัดสินใจแทนมนุษย์มากยิ่งขึ้น

ต่อยอดสู่ Smart Farmer

นายอภินันทร์ สู่ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่าย ผู้ร่วมทำวิจัยกล่าวเสริมว่า เทคโนโลยี IoT เพิ่มความแม่นยำในการเพาะปลูก สามารถสอดแทรกในทุกขั้นตอนการผลิต ทั้งการติดตามสภาพดิน การควบคุมโรคและศัตรูพืช เป็นตัวช่วยสำคัญในการติดตามสุขภาพของพืชและสัตว์ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT ได้แก่ ระบบการติดตามปศุสัตว์ (Livestock Monitoring) ที่ใช้เซ็นเซอร์เก็บรวบรวมข้อมูลสถานที่และตำแหน่งของฝูงปศุสัตว์ ตรวจสุขภาพสัตว์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และป้องกันการแพร่กระจายโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรือนปลูกพืชระบบปิด (Smart Greenhouse)

ด้วยการนำเซ็นเซอร์และแอปพลิเคชันมาช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก เช่น ควบคุมความเข้มแสง อุณหภูมิ เทคโนโลยีควบคุมการให้น้ำ (Water Controlling) ใช้เซ็นเซอร์วัดค่าความชื้น และปริมาณน้ำใต้ดิน คำนวณปริมาณน้ำและเวลาในการรดน้ำที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช การใช้อุปกรณ์อากาศยานไร้คนขับสำหรับจัดการแปลงเกษตร (Drone for Farm Management) การใช้โดรนสำรวจพื้นที่ และฉีดพ่นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง

ขณะเดียวกันยังเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่ภาครัฐส่งเสริมเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคเกษตร 4.0 โดยภาครัฐตั้งเป้าผลักดันการทำเกษตรแบบ Smart Farmer ซึ่งเป็นแนวโน้มของเทรนด์เกษตรทั่วโลก ทั้งนี้ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรสามารถประยุกต์เทคโนโลยี IoT ได้ไม่ยาก

นอกจากศึกษาผลงานวิจัยต่าง ๆ แล้วยังสามารถปรึกษาและขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ประกอบด้วย หน่วยงานวิจัยจากภาครัฐ เช่น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ผู้ให้บริการระบบสื่อสารและโทรคมนาคม (Telco) ผู้ผลิตเครื่องจักรกลเกษตร ตลอดจนกลุ่ม Agritech Startup และผู้ให้คำปรึกษาด้านไอที ที่สามารถช่วยออกแบบ Solution ให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการแต่ละราย


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

Wang Ning เจ้าของ Pop Mart ผู้กลายมาเป็นเศรษฐีจากการขายตุ๊กตา Molly ราคา 300 กว่าบาท ทั่วจีน

Pop Mart ร้านขายของเล่น Art Toys ชื่อดัง ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีนักสะสมคนไหนไม่รู้จัก พร้อมที่จะมุ่งไปทันทีหากมีการเปิดขายคอลเล็กชันตัวละครใหม่ จนต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับคิวในการเข้าซื้อกันเลยทีเดียว

KFC มาเลเซียปิดกว่า 100 สาขา เพราะถูกชาวมุสลิมคว่ำบาตรธุรกิจสัญชาติสหรัฐฯ

KFC แฟรนไชส์สัญชาติอเมริกันกำลังตกเป็นเป้าหมายการรณรงค์คว่ำบาตรธุรกิจของประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลที่ทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์จนมีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

SmartSME Line