แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจะสามารถควบคุมได้อยู่หมัด พร้อมทั้งมีการคลายล็อกให้กิจการต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยมุ่งไปที่การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่ดีขึ้นก็จะทำให้แต่ละแบรนด์ได้ดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีสินค้าขายดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคหลังไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลายลง โดยตามข้อมูลของ Kantar ที่ทำการวิจัยกลุ่มสินค้าที่จะขายดีในช่วงนี้ และยังคงขายดีต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มสินค้า ดังต่อไปนี้

• อีคอมเมิร์ซ
• ฟู้ดเดลิเวอรี่
• ประกัน
• ความบันเทิงภายในบ้าน
• สุขภาพ
• โลจิสติกส์

เมื่อมองดูทั้ง 6 กลุ่มสินค้าตามการวิเคราะห์ข้อมูลของ Priceza เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทย พบว่ากลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปิดจมูก หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคมียอดคลิกเติบโตเพิ่มสูงถึง 122%

รองลงมาเป็นสินค้าคอมพิวเตอร์ที่มียอดคลิกเติบโต 56% จากมาตรการล็อกดาวน์ที่ประชาชน และนักเรียนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน เปลี่ยนมาเรียนออนไลน์ ขณะที่กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดคลิกเติบโต 36% โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าที่ป้องกันเชื้อโรค เช่น แผ่นกรองอากาศ เรื่อยไปจนถึงหม้อทอดไร้น้ำมันที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค

เมื่อเปรียบออกเป็นช่วงระยะเวลาก่อน-ระหว่าง-หลัง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสามารถจำแนกกลุ่มสินค้าที่มีจำนวนคลิกมากที่สุดออกมาได้ดังต่อไปนี้

เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2563 (ช่วงก่อนมีมาตรการล็อกดาวน์)

1.โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

2.สุขภาพและความงาม

3.เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ภายในบ้าน

4.เครื่องใช้ไฟฟ้า

5.เสื้อผ้าและแฟชั่น

เดือน เมษายน-พฤษภาคม 2563 (ช่วงมาตรการล็อกดาวน์)

1.โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

2.เสื้อผ้าและแฟชั่น

3.อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน

4.สุขภาพและความงาม

5.เครื่องใช้ไฟฟ้า

เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2563 (หลังมาตรการล็อกดาวน์)

1.คอมพิวเตอร์

2.สินค้าสำหรับแม่และเด็ก

3.สุขภาพและความงาม

4.โทรศัพท์ - อุปกรณ์สื่อสาร

5.เสื้อผ้าและแฟชั่น

เมื่อเปรียบเทียบ 3 ช่วงเวลาจะเห็นว่า สินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ/ความงาม ยังเป็นที่ต้องการในทุกช่วงของสถานการณ์ และติดอยู่ใน Top 5 ของสินค้าอยู่เสมอ โดยคาดการณ์ว่าภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะยังคงมีความต้องการและจำเป็นมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น