วันอังคาร, เมษายน 30, 2567

5 วิธีพัฒนาคอนเทนต์ ตอบโจทย์คนทำธุรกิจยุคใหม่

by Smart SME, 15 กรกฎาคม 2565

การทำคอนเทนต์แม้แต่ในปี 2022 นี้ก็ยังเป็นหัวใจหลักของการดึงคนเข้ามาให้รู้จักสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์ของคุณอยู่ดี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคำว่า Content is King ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่ เพียงแต่คุณจะใช้วิธีไหนในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ตรงนี้ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายจนทุกคนชื่นชอบ และอยากจะติดตามคุณตลอดไป ซึ่งตรงนี้แหละที่จะต้องมีการปรับตัวกันอยู่เป็นประจำทุกปี เนื่องด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้คอนเทนต์ที่เคยปังในวันก่อน กลยุทธ์เหล่านั้นอาจใช้ในวันนี้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้นคุณเองในฐานะผู้ประกอบการก็ต้องตามเทรนด์คอนเทนต์เหล่านี้ให้ทัน เพื่อให้สร้างสิ่งที่ปังขึ้นมาได้ตลอด ซึ่ง 5 วิธีเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยตอบโจทย์คนทำธุรกิจปี 2022 ได้เป็นอย่างดี เพราะรวบรวมหลักการสร้างคอนเทนต์ที่สำคัญเอาไว้หมดแล้ว

1. ทำคอนเทนต์ทุนน้อย แต่ได้ผลเยอะ

แต่ก่อนมักจะเห็นคนทำคอนเทนต์ระดับใหญ่อย่างการสร้างหนังสั้น การลงทุนที่ดูแพง ดูหรู และการเล่นใหญ่มากมายที่ต้องลงงบการตลาดในการสร้างคอนเทนต์เหล่านี้สูงมาก แต่ในปัจจุบันการทำคอนเทนต์แบบนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะขอแค่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ก็สามารถเกิดการแชร์การบอกต่ออย่างรวดเร็วอยู่ดี


อีกทั้งด้วยกระแสการแข่งขันที่มากขึ้น ทุกคนหันมาทำคอนเทนต์ออนไลน์แข่งกัน ทำให้การลงทุนก้อนใหญ่อาจหายวับไปกับตา ไม่ได้ผลอย่างที่หวังไว้ เพราะสื่อใหม่ๆ คอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาไวเสมอ จึงหันไปทำคอนเทนต์ขนาดเล็กใช้งานฟรีแลนซ์หรือ Influencer เจ้าเดียวจบแต่ได้ผลลัพธ์มหาศาลจากคนติดตามที่ไม่ต่างกัน

2. ปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับแพลตฟอร์มที่ใช้

ในสมัยก่อนเราจะเห็นว่าการทำคอนเทนต์นั้น แค่คอนเทนต์เดียวก็สามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มหน้าตาซ้ำกันไปหมด เช่น ลงคลิปในยูทูป เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทุกตัวเป็นคลิปเดียวกัน ซึ่งนั่นเป็นการหว่านแหที่จะทำให้ผู้รับรู้ไม่เกิดความประทับใจใดๆ กับตัวแบรนด์เลย

ยุคนี้เป็นยุคที่เกิดความหลากหลายมากขึ้นในทุก ๆ ส่วนของธุรกิจ คุณต้องลงคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มนั้นๆ อย่างเดียวเพื่อจะจูงใจคนจากทุกสื่อได้ง่ายขึ้น เช่น Instagram ต้องใส่คอนเทนต์ที่มีแรงบันดาลใจ ดูแฟชั่น ดูคูล หรืออย่างบนทวิตเตอร์ ไม่ต้องใช้วิดีโอคอนเทนต์ แต่เขียนแคปชั่นสั้นๆ อ่านง่าย กระชับ ได้ใจความแทน ยิ่งเข้าใจตัวกลุ่มผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยิ่งสร้างคอนเทนต์ที่ตรงจุดได้มากขึ้น

3. มีทีมครีเอทเป็นของตัวเอง

การจ้างฟรีแลนซ์ในยุคนี้นั้นเป็นที่ยอมรับอย่างมากโดยบริษัทน้อยใหญ่ต่างใช้งานฟรีแลนซ์มากฝีมือได้ทั้งนั้น แต่สำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการทำคอนเทนต์ยุคนี้ สิ่งสำคัญคือความเร็ว หรือ Real Time คอนเทนต์ที่ทันกระแส ทันยุค ทันสมัย ซึ่งคอนเทนต์แบบนี้ลำพังการจ้างฟรีแลนซ์อาจจะไม่ตอบโจทย์ ถ้าหากฟรีแลนซ์เหล่านั้นไม่ใช่คนที่ว่างสแตนด์บายพร้อมทำงานให้คุณเสมอ

ทางออกที่ดีของคอนเทนต์ยุคนี้คือ มีทีมครีเอทีฟของตัวเอง และทีมงานโปรดักต์ชั่นที่คอยสร้างคอนเทนต์ ณ ตอนนั้นทันทีเพื่อเก็บกระแสอย่างรวดเร็ว ซึ่งคอนเทนต์แบบนี้จะเกิดการแชร์และเป็นไวรัลได้ด้วยงบเพียงนิดเดียว

4. สร้างตัวตนให้คนจดจำด้วยสิ่งเล็ก ๆ

ทุกวันนี้คอนเทนต์บนโลกออนไลน์แทบจะซ้ำกันไปซ้ำกันมาจนสามารถหาอ่าน หรือมองเห็นได้ทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่คอนเทนต์วิดีโอที่ทุกแบรนด์ล้วนสร้างมาเพื่อให้โดนใจคนดู แต่กลับไม่มีกลิ่นอายของแบรนด์ตัวเองหลงเหลืออยู่เลย ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ลูกค้าเห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์คุณ นั่นถือว่าการทำคอนเทนต์ของคุณล้มเหลว

เพราะสุดท้ายการสร้างตัวตนให้คนจดจำ จะมีแต่สร้างผลดีให้ธุรกิจกลายเป็นที่รู้จักและสร้างความผูกพันได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รู้ได้ทันทีว่านี่คือคุณลงไป
5. มองหาช่องทางใหม่ ๆ อยู่เสมอ

สุดท้ายแล้วการทำคอนเทนต์นั้นก็เป็นเหมือนการแข่งขันกันมองหาพื้นที่ใหม่ๆ ให้บุกเบิกเข้าไปครองใจกลุ่มผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มนั้น ๆ ซึ่งทุกวันนี้แพลตฟอร์มหลักๆ ก็หนีไม่พ้น IG Twitter Facebook หรือ YouTube แต่โลกเราไม่ได้มีผู้ใช้งานแค่ในแพลตฟอร์มเหล่านั้นอีกต่อไป คอนเทนต์ของคุณสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่านั้น บางครั้งบางทีอาจจะจับคอนเทนต์ไปลงในช่องทางใหม่ๆ เพื่อเปิดตลาดให้กับตัวเองก็ได้

อย่างตอนนี้แพลตฟอร์มที่น่าสนใจอย่าง TikTok เองก็มีคนใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ หลายแสนคน หรือหลักล้านเลยทีเดียว เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจและควรศึกษาในทุก ๆ แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้บริการมากในประเทศไทย เพื่อที่คุณจะได้เป็นที่รู้จักและเคลื่อนไหวก่อนคู่แข่งจะรู้ตัว

 


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line