แม้ว่าจะไม่ใช่ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดหรือรำรวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางทางด้านอีคอมเมิร์ซอันดับ 4 ในภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าทางการตลาดขยายตัวถึง 11.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อถึงปี 2025 โดยมาจากปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- การเติบโตของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้คน
- การใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและร้านค้าออนไลน์
- การเติบโตของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- การประกาศใช้และขยายเครือข่าย 4G
การพัฒนา 4G และการเติบโตของชนชั้นกลางคือจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีเครือข่ายที่เชื่อมต่อได้รวดเร็วขึ้นจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสทางการค้ามากขึ้น ซึ่งการขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ส่งผลดีให้บริษัทต่างชาติและสตาร์ทอัพที่กำลังมองหาหุ้นส่วนหรือเปิดตัวโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซในประเทศ
จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอาเซียน
ตามรายงานของ We are Social พบว่า ประชากรไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต คิดเป็นร้อยละ 67 อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเมืองถึงร้อยละ 52
ในยุคที่อีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ประชากร 2 ใน 3 ของโลกอยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายของการลงทุน เช่น Amazon ที่เข้ามาลงทุนในอาเซียน หรือ Alibaba ที่เดินเกมอย่างหนักในตลาด เมื่อปีที่ผ่านมา แต่รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 3% ของธุรกรรมเท่านั้น ที่มาจากช่องทางออนไลน์ของประเทศไทย
ประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ไทยทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์น้อยมาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ 1.บริษัทในไทยยังไม่พร้อมเข้าสู่ออนไลน์ 2.ผู้บริโภคไม่นิยมซื้อของออนไลน์ ซึ่งเกิดมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้
คนไทยยังคงใช้เงินสดเป็นหลัก
เงินสด ยังคงได้รับความนิยมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมใช้เงินสดในการจับจ่ายซื้อของ คนไทยบางคนยังไม่มีบัญชีธนาคาร นี่จึงเป็นประเด็นที่ท้ายทายของฟินเทคและสตาร์ทอัพให้เข้ามาแก้ปัญหา
ความไม่มั่นใจ
ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเชื่อมั่น ไม่ไว้วางใจที่มีต่อสถาบันทางการเงิน กลัวนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ในกรณีมีการศึกษา พบว่า 32% ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบการต้มตุ๋นในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งระบบเอทีเอ็ม ,อีคอมเมิร์ซ และเอ็มคอมเมิร์ซ กลับกันมีเพียง 17% เท่านั้น ที่เชื่อมั่นในระบบเอ็มคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซ ว่ามีความปลอดภัยจากร้านค้า
ข้อจำกัด
การศึกษาของ Ecommerce IQ พบว่า 47% ของผู้ตอบแบบสอบถาม บอกว่าเหตุผลหลักที่พวกเขาไม่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มาจากข้อจำกัดในด้านต่างๆ ทั้งความรู้ด้านการค้าขายออนไลน์ ทักษะความชำนาญในการใช้เครื่องมือ
ตลาดอีคอมเมิร์ซไม่โตอย่างที่คิด
การจับจ่ายในอีคอมเมิร์ซที่ค่อนข้างน้อย จึงเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ตลาดไม่เติบโต มีเพียงผู้บริโภคน้อยรายที่จะสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้บริษัททั้งหลายมองไปที่ช่องทางออฟไลน์เป็นหลัก
โครงสร้างพื้นฐาน
โครงสร้างพื้นฐานถือเป็นปัจจัยสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซ ว่าจะมีการเติบโตไปได้หรือไม่ รวมถึงในเรื่องโลจิสติกส์ที่ต้องมีการคมนาคมครอบคลุม เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประเทศไทยยังทำไม่ดีเท่าที่ควร
ความช้าของอินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังคงกระจุกอยู่ในตัวเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ โดยประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 67% ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 2 เท่า จากปี 2012 เท่านั้น
เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอีคอมเมิร์ซไทยยังไม่ก้าวไปไหนสักทีอย่างเต็มตัวสักที
ข้อมูลจาก :
techinasia