บิ๊กดาต้า เป็นเทรนด์การตลาดที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในยุคนี้ ซึ่งการที่แบรนด์เลือกใช้การทำการตลาดมักจะใช้วิธีให้ของรางวัล ส่วนลด หรือโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อแลกกับข้อมูลที่เกี่ยวกับเราไม่ว่าจะเป็นชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ ประวัติการศึกษา รายได้ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ทำงาน บทสนทนา รูปภาพ ความชอบ ตำแหน่งที่ตั้ง รายชื่อ contact ที่มีอยู่ ทำให้ข้อมูลของเราขึ้นไปอยู่บนออนไลน์มากมายขนาดที่คุณจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

• วิจัยชี้คนไทยยอมให้ล้วงข้อมูลส่วนตัวแลกกับสิทธิประโยชน์ด้านส่วนลด

ล่าสุด สมาชิกพันทิป ท่านหนึ่ง ตั้งกระทู้ว่า เธอรู้สึกประหลาดใจว่าเพียงแค่เข้าไปดูสินค้าเล่นๆ จากแอปฯ ขายของชื่อดังรายหนึ่ง กลับพบว่ามีข้อมูลจากคนใกล้ตัวปรากฎให้เห็น บางเรื่องค่อนข้างเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ จนอดแปลกใจไม่ได้ว่า ข้อมูลบนโลกออนไลน์ สามารถเข้าถึงใครที่มีความเชื่อมโยงกันได้ง่ายดายขนาดนี้เลยจริงหรือ โดยกระทู้ดังกล่าว ระบุว่า

แอปขายของชื่อดังเด้งเตือนว่าเจ้านายใช้ชื่อปลอมติดตามร้านขายชุดนอนไม่ได้นอนค่ะ

ปกติเราไม่เคยตั้งกระทู้อะไรในพันทิปเลย อ่านอย่างเดียวค่ะ แต่หลังเจอเหตุการณ์นี้เราไม่ค่อยสบายใจ เลยขอยืมล็อคอินเพื่อนมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ไม่แน่ใจว่าประเด็นนี้เคยมีการพูดถึงมาก่อนมั้ย ถ้าเคยดิสคัสกันมาแล้วก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ

เรื่องก็มีอยู่ว่า วันก่อนนั่งกดแอปขายของชื่อดังเล่นๆ ตั้งใจว่าจะซื้อของทั่วๆไปนี่แหละค่ะ พอดีเห็นในแทป “ติดตาม” หัวข้อ “ค้นหาจากรายชื่อผู้ติดต่อ” ไม่รู้อะไรดลใจลองกดเข้าไปเล่นๆ แอปก็จะถามว่าเรายินยอมให้แอปเข้าถึงสมุดโทรศัพท์ไหม ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยลองกด “ตกลง” ดูค่ะ

ก็เลยได้รู้ว่าแอปนี้จะลิ้งค์สมุดโทรศัพท์ของเรากับผู้ใช้ที่กรอกเบอร์โทรศัพท์เดียวกันไว้ในฐานข้อมูลของเขา มันจะบอกเราได้หมดเลยว่าคนที่เราเมมเบอร์ไว้ในชื่ออะไร สมัครแอปโดยใช้ยูเซอร์ว่าอะไร ถ้าใส่รูปก็จะเห็นหน้าด้วย บอกตามตรงว่าตกใจค่ะ คิดว่าแอปนี่มันมีไว้ซื้อขายไม่ใช่เรอะ ไม่ใช่เฟสบุ้ค
หรือinstagramที่เอาไว้แชร์ข้อมูลข่าวสารส่วนตัวนะ เฟสบุ้คเองใครๆก็รู้ว่าตั้งสถานะว่าจะเปิดหรือปิดใครบ้าง แต่นี่เป็นแอปชอปปิ้งแต่กลับเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ซื้อถึงขนาดนี้ ใครใช้ชื่อปลอมอะไรก็เฉลยตัวจิงของคนๆนั้นให้เสร็จสรรพจากเบอร์โทรศัพท์ที่คนนั้นลงไว้ในระบบฐานข้อมูลเพื่อการส่งของด้วย ลูกค้า เจ้านาย เพื่อนร่วมงานคนไหนใช้ชื่อตลกๆแปลกๆอะไรเรารู้หมดเลยค่ะ

ลองกดเข้าไปดู ก็สรุปได้ว่าทุกคนที่เรามีเบอร์เค้า เราจะเห็นหมดว่าเขาใช้ชื่ออะไรซื้อของในแอปนี้ ติดตามร้านค้าอะไรบ้าง (เจอเจ้านายใช้ชื่อคิขุ กดติดตามร้านแนวชุดนอนไม่ได้ได้นอนหลายร้านกับเซรั่มปลูกผมด้วย) เราเองไม่ได้คิดอะไร และไม่อยากรู้ แต่รู้สึกว่า เฮ้ย! มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวเขา เขาซื้ออะไรนอกเวลางานเราไม่ควรรู้ป่ะ แล้วถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไม่ถูกกันหละคะ คนพวกนี้เขาไม่ได้เป็นเฟรนในเฟสกัน แต่เขาย่อมมีเบอร์โทรกัน แบบนี้เขาเอาไปเม้าต่อ ด่ากันลับหลังกันได้สบายเลยนะคะ

และถ้าคนที่เรามีเบอร์ซื้อของอะไรแล้วได้รับรีวิวกลับมา เราก็จะได้อ่านด้วยค่ะ ว่าเขาซื้อของร้านไหน ถ้าร้านเขียนระบุสินค้าเราก็จะได้รู้ว่าเขาซื้ออะไรไปได้รีวิวว่าอะไรบ้าง คือเราว่ามันออกจะเป็นเรื่องส่วนตัวนะ ของในแอปมันมีทุกอย่าง ของบางอย่างเราอาจไม่อยากบอกใครว่าเราใช้ อารมณ์เหมือนเอาสลิปบัตรเครดิตเราขึ้นสาธารณะอะค่ะ ใครที่ซื้อของในนี้เป็นหลัก มันบอกได้ถึงรสนิยมและเศรษฐานะเลยแหละ ที่สำคัญคือ คนที่ซื้อส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นค่ะ ตัวเราเองไม่กดติดตามร้านได้ แต่เราห้ามร้านที่เราซื้อของให้ไม่รีวิวเราไม่ได้ค่ะ

เกิดคนที่เรารู้เบอร์ เปิดร้านขายของเราก็จะรู้ได้ด้วยค่ะ ว่าเขาขายอะไร ร้านขายดีมั้ย รีวิวเป็นยังไง ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอะค่ะ

ที่สำคัญคือถึงแม้จะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ แต่ค่า default ความเป็นส่วนตัวของผู้ซื้ออย่างเราและคนรอบข้างถูกปิดไว้ทุกคนค่ะ ถ้าใครไม่รู้ และไม่เคยไปยุ่งอะไรกับค่านี้มาก่อนก็หมายความว่าทุกคนที่มีเบอร์โทรศัพท์ของคุณมีสิทธิเห็นความเคลื่อนไหวในบัญชีอย่างที่เล่ามาแล้ว ดูจากกิจกรรมของตัวเองที่โชว์เบอร์เยอะมากๆ และเจ้านายที่กดติดตามร้านชุดนอนไม่ได้นอนคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าแอปนี้มีการตั้งค่าเป็น public แบบนี้จึงขอเอามาแชร์ตรงนี้ค่ะ

คหสต เราว่าเรื่องส่วนตัวไม่ควรเด้งขึ้นมาเพียงเพราะเรามีเบอร์เขาและซื้อของแอปเดียวกันนะ สำหรับแอปซื้อขายของต่างคนก็ต่างซื้อกันไปน่าจะพอแล้ว เหมือนเราไปซื้อของเซ็นทรัลแล้วใช้เบอร์โทรศัพท์กรอกบัตรสมาชิก the one card ถ้าเซ็นทรัลเอาเบอร์โทรศัพท์เราไปลิ้งค์กับฐานข้อมูลของเซ็นทรัลแล้วไปบอกเพื่อนเราที่ใช้ the one card เช่นกันว่าเรากำลังสนใจซื้อกางเกงในจากร้านวาโก้เราก็คงไม่โอเค แอปนี้ถือสิทธิอะไรทึกทักเอาเองว่าลูกค้าที่สมัครใจกรอกเบอร์โทรศัพท์ไว้ในฐานข้อมูลของแอปจะสะดวกใจที่จะให้แอปเอาเบอร์โทร (ที่ใช้ในการรับสินค้าของเขา) ไปลิ้งค์กับสมุดโทรศัพท์ของลูกค้ารายอื่น จึงได้ถือวิสาสะเอา username และข้อมูลความชอบส่วนบุคคลของคนๆนั้นไปแจ้งให้อีกคนทราบ และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวพื้นฐานของผู้ซื้อไว้เป็น public แบบนี้ ทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนใดๆตอนที่ลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย

ยาวหน่อยนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน ส่วนในแง่กฎหมายว่าเขามีสิทธิ์เอาเบอร์โทรศัพท์ไปหาประโยชน์โดยไม่ขออนุญาติหรือแชร์ข้อมูลเราขนาดนี้มั้ย เราไม่รู้ เพื่อนคนไหนพอทราบรบกวนขอความกระจ่างด้วยค่ะ

ปล เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับแอปนี้ ไม่ได้มาจากแอปคู่แข่ง เป็นแค่ผู้บริโภคธรรมดานะคะ เพื่อนๆคนไหนต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากโชว์ว่าไปซื้ออะไรมาออกสื่อก็อย่าลืมเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ซื้อด้วยนะคะ ย้ำว่าหาก default ของแอปเป็น ปุ่มสีเทาคือกำลังเปิด public ต้องการความเป็นส่วนตัวให้เลื่อนให้ปุ่มเป็นสีเขียวจ้า

สุดท้ายนี้ ขอให้ enjoy shopping ค่าา ทุกคน 

*เพิ่มเติม
หลังจากอ่านกระทู้แล้ว หลายคนอาจโมโหจนอยากลบแอปออกทันที อย่าเพิ่งวู่วามไปนะคะ ถ้าลบ app ออกโดยที่ยังมี account อยู่ ข้อมูลทุกอย่างของคุณที่เป็น public ก็จะยังอยู่เป็น public อย่างนั้นตลอดไป ก่อนลบ app ออก ต้องอย่าลืมตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้ (เผื่อกลับมาใช้อีก) หรือไม่ก็ต้อง
delete account ไปก่อนด้วยนะคะ ไม่งั้นข้อมูลทุกอย่างจะยังอยู่เหมือนเดิมจ้า

ไปที่แทปฉัน --> ตั้งค่าบัญชี --> คำขอลบบัญชีผู้ใช้

Source : pantip.com