ปาท่องโก๋ อีกหนึ่งอาหารที่เห็นกันเป็นประจำ แต่หลายคนก็ติดตรงที่น้ำมันที่ใช้ค่อนข้างเยอะในเวลาทอด และอมน้ำมัน ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ จาก Pain Point ตรงนี้ทำให้คุณธนพงษ์ คงเอี่ยมพิธี เกิดไอเดียนำปาท่องโก๋ที่ทอดแล้วมาสะบัดน้ำมัน แล้วมาชิมดูระหว่าง “สะบัด” กับ “ไม่สะบัด” พบว่ามีความแตกต่าง เลยกลายเป็นจุดเด่น สร้างความแตกต่าง เป็นที่มาของ “ปั้นแป้ง” ปาท่องโก๋สะบัดน้ำมัน เจ้าแรกของประเทศไทย

คุณธนพงษ์ คงเอี่ยมพิธี เจ้าของร้านปั้นแป้ง ปาท่องโก๋สะบัดน้ำมัน เล่ากับ Smartsme ว่าตั้งแต่เรียนจบมาก็เป็นพนักงานบริษัท ทำงานประมาณ 2 ปี ได้ลาออกจากบริษัท และคิดว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากจะเติบโต ตนมองตัวเองในอีก 5-10 ปี ว่าอยากจะทำอะไร

“เราฝันอยากมีธุรกิจ ถ้าอยากเริ่มก็อยากเริ่มให้มันเร็ว เวลาล้มเราก็ลุกได้” คุณธนพงษ์ กล่าว

คุณธนพงษ์ พูดย้อนกลับไปถึงแรกที่เปิดขายว่า ขายวันแรกได้ 6-7 กิโลกรัม มีคนเข้ามาซื้อขายจนหมด เริ่มมีลูกค้าประจำ และได้รับฟีดแบ๊คว่า “ปาท่องโก๋ เธออร่อยนะ” ในช่วงแรกเราเริ่มต้นจากเตาเดียว พอเริ่มมีคนมายืนรอ ซึ่งปาท่องโก๋ต้องใช้ระยะเวลาในการทอด บวกกับเกรงใจลูกค้า จึงมีการเพิ่มเตา-เพิ่มคน มาเรื่อย ๆ

“จาก 1 เตา เพิ่มเป็น 2 เตา และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีคนมารีวิวว่าเป็นปาท่องโก๋สะบัดน้ำมัน เข้าใจว่ามีความแตกต่างจากที่อื่น คนก็เลยมาอุดหนุนกันเยอะ จนเดือนกุมภาพันธุ์ได้ขยายร้านอย่างจริงจัง” คุณธนพงษ์ กล่าว

แม้ว่าคนทั่วไปจะมองว่าการทำปาท่องโก๋เป็นเรื่องง่าย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบนนั้นเลย คุณธนพงษ์ อธิบายว่า การทำปาท่องโก๋มีความยากในตัวของมันเอง ต้องใช้ประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น การคุมไฟ, การทอด, การปั้น, ตัวแป้งที่มีระยะเวลาการใช้ รวมถึงการสะบัดน้ำมัน สรุปได้ว่าความยาก คือการควบคุมคุณภาพปาท่องโก๋ให้ดีที่สุด

“ปาท่องโก๋ปั้นแป้ง ทุกสาขาใช้มาตรฐานเดียวกันหมด โดยเราเรียนรู้จากสิ่งที่เคยผิดพลาดมาก่อน” คุณธนพงษ์ กล่าว

เมื่อพูดถึงกระแสที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก คุณธนพงษ์ ให้คำตอบว่าลูกค้าเข้ามาอุดหนุนก่อนที่จะมีกระแสอยู่แล้ว แต่พอมีกระแสทำให้ได้เจอกับลูกค้าใหม่ๆ มาทดลอง และเกิดการซื้อซ้ำ จากปัจจัยเรื่องของรสชาติ มาตรฐาน โดยตนขายเป็นชุด 8 ตัว 35 บาท ส่วนสังขยาถ้วยละ 15 บาท ขายมากสุดอยู่ที่ 500 คิว ตกอยู่ประมาณ 1,000 ชุด ใช้แป้งวันหนึ่งตกประมาณ 100 กิโลกรัม ยอดขายอยู่ประมาณ 30,000 บาท/วัน

คุณธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าเวลาทำธุรกิจเราต้องรู้ว่าใครคือลูกค้า อย่างเรารู้อยู่แล้วว่าใครที่มากินปาท่องโก๋ Pain point คือรู้อยู่แล้วว่าปาท่องโก๋ชอบอมน้ำมัน ซึ่งเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ตนยอมรับว่าวันที่ลาออกจากงานยังไม่พร้อม มันไม่มีธุรกิจอะไรที่พร้อมแบบ 100% แล้วถึงจะเริ่มทำ แต่คือการทำไป เรียนรู้ไป หากพลาดไปก็กลับมาแก้ไข ถ้าเราเชื่อทุกอย่างก็เป็นไปได้