เคส iPhone รุ่นเก่าที่เราไม่ใช้แล้วมักจะถูกทิ้ง หรือไม่ถูกยัดอยู่ในลิ้นชักแบบหมดความหมาย มี่ประโยชน์อีกต่อไป แต่จะดีกว่านี้หรือไม่ หากเคสไอโฟนเหล่านี้สามารถนำต่อยอดส่งคืนความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
iGreen Cover สร้างสรรค์โดย iGreen Gadgets แบรนด์อุปกรณ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ทำเคส iPhone แบบแรก และแบบเดียวในโลกที่ย่อยสลายได้แบบสมบูรณ์แบบ มีเมล็ดพืชสามารถนำไปปลูกได้เมื่อไม่ใช้งานแล้ว ทั้งดอกไม้-พืชสมุนไพร แบบน่าทึ่งตามเป้าหมายที่อยากสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เคส iPhone มีส่วนประกอบที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โดยมีแป้งข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลัก และมีสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่ใช่เพียงแต่ให้ความแข็งแกร่งแก่เคสเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงเมล็ดพืชที่ซ่อนอยู่ภายในโครงสร้างของเคสอีกด้วย แน่นอนว่าจะช่วยให้เคสสามารถย่อยสลายได้อย่างแท้จริง ซึ่งรากของพืชที่กำลังเติบโตจะกินแป้งข้าวโพด ช่วยให้มันละลาย และกลับคืนสู่ดินเร็วขึ้น
ผู้ใช้สามารถนำเคสไปปลูกลงดินได้ เมื่อเคสสลายตัวจะปล่อยเมล็ดออกมา ทำให้คุณปลูกสมุนไพร หรือดอกไม้ได้ตรงฝาที่ถูกทิ้ง แบ่งเป็น 3 เวอร์ชัน ได้แก่ 1.สีเขียวสำหรับโหระพา 2.สีเหลืองสำหรับเดซี่ และ 3.สีฟ้าอ่อน
หากต้องการปลูก iGreen Cover เพียงฝัง โดยทำมุม 30 องศากับพื้น ซึ่งเมล็ดที่อยู่ภายในจะได้รับการปกป้องด้วยฟิล์มที่ละลายน้ำ และจะละลายเมื่อสัมผัสกับพื้น ทำให้เมล็ดมีอิสระจะหยั่งรากได้
ที่มา: designtaxi
Mostview
ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน
อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต
เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน
ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%
สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ
จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา
ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
