เข้าสู่ช่วงปลายปี 2563 แบบนี้ ผู้ที่มีรายได้จากการทำงาน และเข้าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เริ่มวางแผนลดหย่อนภาษี เพื่อเป็นตัวเลือกในการได้เงินคืนกลับมาภายใต้เงื่อนไขการใช้จ่ายที่สามารถนำมาลดหย่อนคืนเงินได้ภายหลัง

สำหรับใครที่ยังไม่ได้วางแผนเรื่องภาษี รวมถึงยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีรายการใช้จ่ายอะไรบ้างที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีปี 2563 ได้นั้น มาดูกันเลยตามหมวดหมู่ ดังต่อไปนี้

1.ส่วนตัว-ครอบครัว

• ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล ลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนบุตร จำนวน 30,000 บาท
• ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 จำนวน 30,000 บาท
• ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา คนละ 30,000 บาท
• ค่าอุปการะคนพิการหรือทุพพลภาพ 60,000 บาท

2.เงินออม-เงินลงทุน

• กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
• กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSF) ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน ลดหย่อนภาษีสูงสุด 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
• ประกันชีวิตบำนาญ ลดหย่อนภาษีสูงสุด 15% แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
• ประกันชีวิตทั่วไป หรือเงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิต ลดหย่อนไม่เกิน 100,000 บาท
• ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี แต่เมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิต และเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
• ประกันสุขภาพบิดา-มารดา ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
• กองทุนการออมแห่งชาติ สูงสุดปีละ 13,200 บาท

3.เงินบริจาค

• เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10%
• เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐฯ ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10%
• เงินบริจาคเพื่อการพัฒนาสังคม ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10%
• เงินบริจาคสนับสนุนกีฬา ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10%
• เงินบริจาคพรรคการเมือง รวมแล้วไม่เกิน 10,000 บาท

4.เงินลดหย่อนภาษีตามมาตรการรัฐฯ

• ช้อปดีมีคืน ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
• ซื้อบ้านหลังแรกปี 2559 ลดหย่อนภาษี 120,000 บาท
• ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการมีที่อยู่อาศัย ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 100,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายได้เข้าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ควรวางแผน และคำนวณเรื่องการใช้จ่ายให้ดีเสียก่อน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเองสูงที่สุดในเรื่องของการลดหย่อนภาษี