ปัจจุบันการซื้อของออนไลน์กลายเป็นช่องทางยอดนิยมของผู้บริโภคสมัยใหม่ ด้วยความสะดวกสบายในการเลือกซื้อของที่มีหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง โซเชียลมีเดีย, อีคอมเมิร์ซ รวมการชำระเงินที่แสนจะง่ายดาย โดยการโอนผ่านแอปพลิเคชัน จึงทำให้ลดขั้นตอนกระบวนการของลูกค้าที่ไม่ต้องเดินทางไปตามห้างสรรพสินค้า

แม้ทุกอย่างจะดูเป็นประโยชน์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค New Normal แต่อีกมุมหนึ่งการซื้อของออนไลน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับเหล่ามิจฉาชีพได้เข้ามากอบโกยเช่นกัน โดยรูปแบบที่พบเห็นบ่อยคงหนีไม่พ้นการเข้ามาในรูปแบบของการเปิดร้านขายของ เมื่อลูกค้าโอนเงินเรียบร้อยก็จะบล็อก พร้อมทั้งลบโปร์ไฟล์ ขาดการติดต่อไปเลย

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วอย่าตกใจไป เพราะผู้เสียหายสามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ โดยข้อมูลจากกองปราบปรามระบุว่า ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งต้องเตรียมเอกสารประกอบการแจ้งความ ประกอบด้วย

• รูปภาพโปร์ไฟล์ของผู้ขายสินค้า
• โพสต์ที่ประกาศขายสินค้า
• แชทพูดคุยระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย
• บัญชีธนาคารที่โอนเงิน
• สลิปชำระสินค้า

สำหรับในส่วนของรูปภาพโปร์ไฟล์ของผู้ขายสินค้า และโพสต์ที่ประกาศขายสินค้า ผู้เสียหาย ทำได้โดยการแคปหน้าจอ หรือถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือมาก็ได้

เมื่อเข้าสู่กระบวนการแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงบันทึกประจำวัน พร้อมออกหนังสือตรวจสอบสเตทเม้นไปยังธนาคารมาประกอบสำนวนการสอบสวน

ที่สำคัญผู้เสียหายไม่ควรรอให้ถึง 3 เดือน แต่ควรแจ้งความให้เร็วที่สุด เพื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ธนาคารจะช่วยติดตามเอาทรัพย์คืน พร้อมดำเนินคดีกับมิจฉาชีพเหล่านั้นต่อไป