ประเด็นเรื่องคริปโตเคอเรนซี่เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเก็บภาษีว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่อสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องให้กับผู้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ได้ทำตาม

ล่าสุด กรมสรรพากร ได้ออกคู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคริปโตเคอเรนซี่ โทเคนดิจิทัลมาเป็นที่เรียบร้อย โดย Smartsme จะขอเสนอวิธีการคำนวณภาษีเพื่อยื่นแบบ หากคุณดำเนินการวิธีนี้จะต้องดำเนินการอย่างไร

1.การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่/โทเคนดิจิทัลให้แก่บุคคลอื่น เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุนเป็นเงินได้ หรือพูดง่าย ๆ คือ กำไรจากการลงทุน ให้ยื่นแบบมาตรา 40(4)(ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร

2.การขุดคริปโตเคอเรนซี่ ณ วันที่ได้รับคริปโตฯ จากการขุด ยังไม่ถือเป็นเงินได้พึงประเมิน

3.ได้รับคริปโตเคอเรนซี่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง
-พนักงานที่ได้รับเงินเดือนเป็นคริปโตฯ ถือเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ถือเป็นผู้ได้รับเงินได้พึงประเมินประเภท 40(1)
-ผู้รับจ้างได้รับค่าจ้างเป็นคริปโตฯ ถือเป็นเงินได้จากการรับทำงานให้นั้น ถือให้เป็นผู้ได้รับเงินได้พึงประเมินประเภท 40(2)
-หากได้รับเงินเดือน ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และได้รับค่าจ้าง ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) จากนายจ้างรายเดียวกันด้วยแล้ว ผู้มีเงินได้จะต้องรวมแสดงเป็นเงินประเภท 40(1)

4.ได้รับคริปโตเคอเรนซี/โทเคนดิจิทัลจากการให้ หรือได้รับเป็นรางวัล ถือเป็นเงินได้มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฏากร เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว

5.ได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครองโทเคนดิจิทัล ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ซ) แห่งประมวลรัษฏากร

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่

https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/information/manual_crypto_310165.pdf?fbclid=IwAR3NHZdVer6DbRYEtP4UPYebyLrHTTJhVr36rX0BRBjH7VzkPEk9GAgoCjI  

#โทเคนดิจิทัล