วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2567

เมื่อรายได้สุดปังอยากมี Passive Income ต้องทำอย่างไร

by Anirut.j, 5 กุมภาพันธ์ 2565

การทำธุรกิจให้ยั่งยืนนอกเหนือจากการบริหารที่ดีแล้ว การจัดการเรื่องรายได้ที่เข้ามาก็มีความสำคัญอยู่ไม่ใช่น้อย หากผู้ประกอบการมีวิธีทำให้เงินที่มีอยู่สามารถงอกเงยต่อไปได้ในอนาคตจะเป็นผลดีต่อธุรกิจ หรือหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถถอนออกมาได้โดยไม่เดือดร้อน

ปัจจุบันมีหลายวิธีที่จะทำให้เงินทำงานแทนเราหรือที่เรียกว่า “passive income” ซึ่งหมายถึงการรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลย ดังนั้น เรามาดูกันว่าวิธีสร้าง “passive income” สามารถทำได้อย่างไรบ้าง ดังต่อไปนี้

ฝากเงินกับธนาคาร

นี่คือวิธีแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่มักคุ้นเคย และทำกันมาก การฝากเงินกับธนาคารมีคำถามขึ้นมาว่า “passive income” มาจากไหน สำหรับคำตอบนั้น คือมาจาก “ดอกเบี้ย” นั่นเอง ซึ่งการเปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารมีทั้งแบบออมทรัพย์ และฝากประจำ ให้เป็นตัวเลือก

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการฝากเงินในรูปแบบดังกล่าว คือในเรื่องของดอกเบี้ยที่ได้ค่อนข้างน้อยเฉลี่ย 0.25%-2% บางครั้งเมื่อถูกคำนวณออกมาแล้วนึกว่าเป็นเงินทอนโอนเข้ามาในบัญชี แต่ข้อดีก็มี คือเงินต้นที่เราฝากจะอยู่ครบไม่ติดลบเหมือนกับการเล่นหุ้น ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์

ลงทุนในหุ้น

การลงทุนในหุ้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ และเป็นช่องทางยอดนิยมระดับต้น ๆ ของผู้คนทั่วโลก ในอดีตเราได้เห็นบุคคลที่ร่ำรวยมาจากการเล่นหุ้น สามารถสร้างเป็นตอบแทนอย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ร่ำรวยจากการลงทุนในหุ้น

แม้ว่าการลงทุนในหุ้นจะมีกระบวนการค่อนข้างง่าย แค่ซื้อมา-ขายไป แต่เคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่ว่า “การลงทุนเป็นความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อน” นั่นหมายความว่าก่อนจะลงทุนเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ประกอบการควรมานั่งทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลว่า หุ้นที่จะซื้อนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ดูผลตอบแทนย้อนหลัง รวมทั้งคาดการณ์ไปในอนาคตข้างหน้าว่าธุรกิจดังกล่าวยังคงเป็นเทรนด์ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ผู้คนส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องอุปโภค-บริโภค ซึ่งหากศึกษาไม่ดีหุ้นที่ลงทุนไปก็อาจติดดอยก็เป็นได้

ซื้อกองทุนรวม

หากจะนิยามคำว่า “กองทุนรวม” คืออะไร อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือการนำเงินทุนมากองรวมกัน นั่นเอง ข้อดีของกองทุนรวม คือผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมานั่งดูราคาเหมือนกับลงทุนในหุ้น เนื่องจากจะมีผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) มาคอยจัดการในเรื่องนี้ อีกทั้งยังสามารถใช้เงินลงทุนไม่ต้องมากเหมือนกับการซื้อหุ้นที่การซื้อแต่ละครั้งต้องซื้ออย่างต่ำ 100 หุ้น แต่กองทุนรวมแค่มีเงิน 500 บาทก็สามารถเป็นเจ้าของกองทุนได้แล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น “กองทุนรวม” ยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีปลายปีได้อีกด้วย หากมีการซื้อกองทุนแบบ RMF และ SSF

สำหรับ “กองทุนรวม” จะมีให้เลือกอย่างหลากหลายตามระดับความเสี่ยง เหมือนกับเราเข้าไปซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าเลย ไม่ว่าจะเป็น กองทุนตราสารหนี้, กองทุนรวมหุ้น, กองทุนทองคำ ซึ่งในแต่ละกองทุนก็จะมีความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันหากเสี่ยงมากผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็จะสูง แต่หากเสี่ยงน้อยผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็จะน้อยตาม ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของกองทุนให้ดีก่อนจะลงทุน

ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์

อีกหนึ่งวิธีการสร้าง “passive income” ยอดนิยม คือการซื้ออสังหาริมทรัพย์ แล้วปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ เช่น บ้าน, ห้องแถว, คอนโด เป็นต้น ในลักษณะแบบรายเดือน หรือระยะยาวเป็นปี

หัวใจสำคัญที่จะทำให้การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ประสบความสำเร็จ คือการเลือกทำเลที่มีสาธารณูปโภคเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน, ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนเป็นแหล่งที่มีผู้คนพลุกพล่าน เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสนับสนุนว่าอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการจะมีคนมาขอเช่าอย่างแน่นอน

ต่อยอดสู่แฟรนไชส์

การต่อยอดธุรกิจสู่แฟรนไชส์มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นการสร้าง “passive income” แล้ว อีกด้านหนึ่งยังเป็นการต่อยอดแบรนด์ธุรกิจให้เป็นที่รู้จักในตลาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความยากของการต่อยอดสู่แฟรนไชส์นั้น คือธุรกิจที่ผู้ประกอบการดำเนินอยู่นั้นมีการบริหารจัดการระบบ วัตถุดิบที่ดีเยี่ยม เป็นไปตามมาตรฐานที่วางเอาไว้ เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจที่มีความสำเร็จรูปอยู่ในตัวเอง ตอบโจทย์คนที่อยากมีธุรกิจ แต่ไม่อยากเริ่มต้นตั้งแต่แรก ดังนั้น ทุกขั้นตอนต้องได้รับการเซตระบบมาดีแล้ว

แน่นอนว่าการต่อยอดสู่แฟรนไชส์จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ โดยเก็บจากค่าซื้อแฟรนไชส์, ค่าธรรมเนียมในแต่ละปี

จะเห็นได้ว่า “passive income” เป็นการสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่งที่เหมาะกับผู้ประกอบการที่อยากมีรายได้เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ นอกจากธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งแน่นอนจะช่วยสร้างความยั่งยืน และไปสู่เป้าหมายของชีวิตได้เร็วยิ่งขึ้น


Mostview

ปิดแล้ว! ร้าน Lawson ฉากหลังภูเขาฟูจิ หลังนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฏ ทิ้งขยะเกลื่อน

อีกหนึ่งจุดถ่ายภาพเวลานักท่องเที่ยวไปภูเขาฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น นั่นคือพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ ที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปให้ได้ แต่ตอนนี้กำลังจะเหลือเพียงความทรงจำ กลายเป็นอดีต

คู่รักนักธุรกิจอินเดียบริจาคทรัพย์สิน 890 ล้านบาท พร้อมออกบวชเข้าสู่เส้นทางศาสนา

คู่รักชาวอินเดียผู้มั่งคั่งจากรัฐคุชราตได้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 200 ล้านรูปี (ประมาณ 890 ล้านบาท) เพื่อบวชเป็นพระ หลังได้รับแรงบันดาลใจจากการบวชของลูกชาย และลูกสาว

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ผลกระทบขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจทำให้สินค้าขยับราคาขึ้น 15%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน ทั้งในภาคส่วนการผลิต การค้า และบริการ การปรับอัตราค่าแรงในแต่ละครั้งมักจะมีผลกระทบต่อทั้ง GDP เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน รวมถึงอัตราการว่างงานทั้งบวกและลบ

Noumami บริษัทนอร์เวย์ ผลิตน้ำปลาจากแซลมอน แบรนด์แรกของโลก

“น้ำปลา” จัดเป็นสินค้าสัตว์น้ำพื้นเมืองของประเทศไทย โดยปลาที่นิยมนำมาเป็นวัตถุดิบ ได้แก่ ปลากะตัก ปลาสร้อย ปลาซิวแก้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปลาดังกล่าวที่พูดมาสามารถนำมาทำเป็นน้ำปลาได้ เพราะปลาแซลมอนก็สามารถนำมาผลิตได้เช่นกัน

SmartSME Line