การทำธุรกิจหลายคนมักมองว่าต้องมีทีมงานที่คอยดูแลในแต่ละแผนก ทำหน้าที่ในแต่ละส่วน ซึ่งอาจต้องใช้ทรัพยากรบุคคลจำนวนมาก แต่อีกมุมหนึ่งก็มีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจเพียงลำพัง หรือมีพนักงานจำนวนไม่มาก แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม
การทำธุรกิจหลายคนอาจจะมองเรื่อง “รายได้” และ “กำไร” ทำอย่างไรก็ได้ให้สินค้า หรือบริการที่มีอยู่ขายออก ได้รับความนิยมจากลูกค้า พร้อมกับสร้างภาพความฝันขึ้นมาว่าธุรกิจที่ทำอยู่จะเติบโต ร้านค้าใหญ่ ๆ มีสาขาตามสถานที่ต่าง ๆ
ตลาดอีคอมเมิร์ซกลายเป็นเรื่องปกติที่เรามักพบเห็นในยุคปัจจุบันที่พ่อค้า แม่ค้าจะนำเอาสินค้าที่ตนเองมีอยู่มาวางจำหน่ายในหมวดหมู่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เสื้อผ้า, ของใช้ในครัวเรือน เหล่านี้เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ของผู้คน โดยเฉพาะนักช้อป
ผู้ประกอบการหลายรายที่ประสบความสำเร็จได้แชร์ประสบการณ์ว่าพวกเขาได้รู้บางสิ่งตั้งแต่เนิ่น ๆ ในสิ่งที่กำลังทำอยู่ อาจจะเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารเวลา, การจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย, การให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่าย ตลอดจนการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
หากเราตั้งคำถามว่า มหาเศรษฐีชั้นนำของโลกส่วนใหญ่มีอะไรเหมือนกัน?
การทำธุรกิจ หลายคนต้องมองถึงความพร้อมในทุก ๆ ด้าน มีทรัพยากรมนุษย์ที่มีความพร้อมในแต่ละฝ่าย เพื่อเป้าหมาย และประสิทธิภาพของธุรกิจ เหล่านี้จึงเป็นภาพจำว่าการเปิดกิจการต้องมีคนจำนวนมาก
หากการทำงานในองค์กรต้องมีการวิเคราะห์ถึงจุดแข็ง-จุดอ่อน เพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนาทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมการทำธุรกิจก็หนีไม่พ้น ต้องมีแบบทดสอบเหมือนกัน เพราะจะได้สำรวจรู้ตัวเองว่ามีความเหมาะที่จะทำธุรกิจหรือไม่
U.S. News ทำการจัดอันดับประเทศที่เหมาะแก่การเริ่มต้นทำธุรกิจในปี 2023 จากการสำรวจผู้คนทั่วโลกมากกว่า 17,000 คน และประเมินประเทศตามการรับรู้ของผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 4,600 คน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจ-ผู้นำระดับสูงในองค์กร หรือเจ้าของธุรก
สมัยนี้ ทำงานอะไร ๆ อย่างเดียวก็รู้สึกไม่มั่นคง หลายคนจึงมองหา Second Job , Third Job และช่องทางสร้างรายได้ตามแต่ที่ตัวเองชอบและถนัด
การพัฒนาของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ สร้างการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปจากเดิม ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหน้าร้านเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป